- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 29 December 2016 18:01
- Hits: 1722
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังประเทศกลุ่มโอเปกและนอนโอเปกเตรียมปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปี 60
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงจับตามองท่าทีของประเทศกลุ่มโอเปก (OPEC)และประเทศนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) ที่เตรียมจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในวันที่ 1ม.ค. 60
(+) ในปี 2560 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าประเทศกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกเตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่สุดในกลุ่มโอเปกตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตในระดับที่มากที่สุดของการลดกำลังการผลิตทั่วโลก
(+) อิหร่านออกมาให้ความเชื่อมั่นว่าข้อตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปี 2560 จะบรรลุผล หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของประเทศอิรัก เปิดเผยว่าอิรักเตรียมที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงประมาณ 200,000-210,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ม.ค. 60 ประกอบกับ ประเทศเวเนซุเอลาซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มโอเปกพร้อมที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 95,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2560เช่นเดียวกัน
(+) นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุน หลังนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23ธ.ค. 59 จะปรับตัวลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้าปรับเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล
(-) อย่างไรก็ดี ปริมาณการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าค่อนข้างเบาบาง โดยตัวเลขการซื้อขายอยู่ที่ 294,000 สัญญา ซึ่งน้อยกว่าระดับเฉลี่ยรายวันเมื่อคิดเทียบกับช่วง 200วันก่อนหน้า ที่การซื้อขายอยู่ที่ 525,000 สัญญา
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในจีนเตรียมแผนการส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. 60 อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากตัวเลขปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในญี่ปุ่นที่ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 9.51 ล้านบาร์เรล ในช่วงสิ้นเดือน พ.ย. 59ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบเกือบ 2ปี
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวดีขึ้นหลังประเทศศรีลังกามีความต้องการนำเข้าน้ำมันดีเซลต่อเนื่องทั้งในเดือน ม.ค. และ ก.พ. 60 อย่างไรก็ตาม ตลาดยังถูกกดดันจากอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นในญี่ปุ่น หลังตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ52-57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบีย หลังบริษัทน้ำมันสามารถเปิดดำเนินการท่อขนส่งน้ำมันดิบและล่าสุดแหล่งผลิต El Sharara สามารถกลับมาผลิตและมีปริมาณการผลิตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 58,000 บาร์เรลต่อวัน ในขณะที่แหล่งผลิต ElFeelอยู่ระหว่างการเตรียมตัวที่จะเริ่มดำเนินการผลิตในเร็วนี้ โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 175,000 บาร์เรลต่อวันใน 1 เดือน และ 275,000 บาร์เรลต่อวัน ใน 3 เดือนจากปัจจุบันที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูง หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบและปริมาณการผลิตในประเทศปรับเพิ่มขึ้นมากกว่ากำลังการกลั่นของโรงกลั่นที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันในช่วงปลายปี โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ธ.ค. 59 ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์มาอยู่ที่ระดับ 485.5 ล้านบาร์เรล
จับตาผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะสามารถปรับลดกำลังการผลิตลงตามที่ตกลงไว้ว่าหรือไม่ ล่าสุด กลุ่มโอเปกเริ่มดำเนินการแจ้งกลุ่มลูกค้าว่าจะมีการปรับลดปริมาณน้ำมันดิบที่ส่งออกลงโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 และรัสเซียได้ทาการตกลงเบื้องต้นที่จะปรับลดกำลังการผลิตตามที่ได้มีการตกลงไว้แล้ว