- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 13 December 2016 20:11
- Hits: 8370
ราคาน้ำมันดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนหลังผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกตกลงปรับลดกำลังการผลิตลง
+ ราคาน้ำมันดิบในวันจันทร์ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนหลังกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบทั้งสิ้น 558,000 บาร์เรลต่อวันเพิ่มเติมจากที่กลุ่มโอเปกได้มีข้อตกลงลดกำลังลงการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันก่อนหน้านี้ โดยระดับที่ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดลงเป็นระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดีถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตลง
+/- อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนได้ให้ความเห็นว่า หากต้องการให้ระดับราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับเกิน 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทุกประเทศที่มีส่วนร่วมกับข้อตกลงลดกำลังการผลิตในครั้งนี้ จะต้องทำตามคำมั่นสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้
- นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะยังไม่สามารถลดกำลังการผลิตตามเป้าหมายได้ในเร็ววันนี้ โดยเฉพาะรัสเซียผู้ผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปกรายใหญ่ จะไม่สามารถลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงได้จนกว่าจะถึงเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมในปี 2560 นี้
- ยังจะต้องจับตาการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในประเทศสหรัฐฯ ว่าจะปรับตัวกับราคาน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นมาเช่นไร โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลทำให้ระดับการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 8.6 ล้านบาร์เรลต่อวันซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2558 เพียง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียได้รับแรงกดดันจากการลดลงของราคาน้ำมันเบนซิน (RBOB) ในสหรัฐฯ หลังอุปทานอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้แนวโน้มปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของสิงคโปร์มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูหนาว
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานคาดว่าจะปรับลดหลังโรงกลั่นในอินเดียวางแผนปิดซ่อมบำรุงในช่วงวันที่ 22 ธ.ค. ถึง 5 ม.ค.นี้ นอกจากกนี้โรงกลั่นในเนเธอร์แลนด์ลดกำลังการผลิตลงประมาณร้อยละ 20 หลังยังไม่สามารถเจรจากับสหภาพ FNV ได้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบโลกมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกตัดสินใจลดกำลังการผลิตลงราว 0.558 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยรัสเซียจะปรับลดปริมาณการผลิตลงราว 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งความร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกในครั้งนี้ อาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบโลกปรับลดลงราว 1.8 ล้านบาร์เรล หรือเทียบเท่ากับร้อยละ 2
ตลาดกังวลว่าการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกตามข้อตกลงอาจเป็นไปได้ยากขึ้น หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในเดือนพ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 34.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยประเทศที่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตมากสุดได้แก่ แองโกลา ลิเบีย ไนจีเรีย และอิรัก ตามลำดับ