- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 25 November 2016 20:07
- Hits: 9579
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย และจับตาดูท่าทีการประชุม OPEC
(+) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังนักลงทุนชะลอการซื้อขายเนื่องจากตลาดซื้อขายในสหรัฐฯ ปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และรอผลการประชุมของกลุ่มโอเปกที่จะเจรจาข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มในวันที่ 30 พ.ย. นี้ ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
(+) ล่าสุดนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียมีท่าทีที่จะปรับแผนกำลังการผลิตน้ำมันดิบในปี 2560 ลง 200,000 - 300,000 บาร์เรลต่อวัน หากข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกมีผลบังคับใช้
(+) นายนาติก อาลิเยฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอาเซอร์ไบจาน ยังได้เปิดเผยว่า กลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะผลักดันให้กลุ่มประเทศนอกกลุ่มโอเปกช่วยปรับลดกำลังการผลิต 880,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซียออกมาโต้แย้งว่า ปริมาณการผลิตที่จะปรับลดลงอยู่ที่ 500,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น
(+/-) นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตามองการหารือเบื้องต้นระหว่าง นายนูเรดดีน บูเตอร์ฟา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของแอลจีเรียกับนายไบจาน ซันเกเนห์ รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิหร่าน ที่จะเกิดขึ้น ณ กรุง เตหะราน อิหร่าน ในวันเสาร์นี้ ก่อนการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. นี้
(+) สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะบรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าปริมาณน้ำมันดิบที่ปรับลดลงจะช่วยขจัดอุปทานน้ำมันดิบส่วนเกินไปได้ นอกจากนี้ IEA ยังคาดการณ์ว่าการลงทุนใหม่ในการผลิตน้ำมันดิบสำหรับปี 2560 จะปรับลดลงติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เนื่องจากอุปทานที่ยังอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้หน่วยผลิตน้ำมันเบนซินของโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ในประเทศอินเดีย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของประเทศสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขที่ปรับเพิ่มขึ้นมาจากการนำเข้าจากประเทศจีนและซาอุดิอาระเบีย
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46 - 51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47 - 52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. นี้ โดยตลาดคาดว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 - 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ ภายหลังประเทศภายในกลุ่มโอเปกมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น ข้อเสนอปัจจุบันคือแต่ละประเทศ ยกเว้นลิเบียและไนจีเรีย จะมีการปรับลดกำลังการผลิตลงราวร้อยละ 4.0 - 4.5 ในขณะที่ รัสเซียออกมากล่าวสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าวและคาดจะคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับเดิม
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดในสหรัฐฯ เริ่มคลี่คลายและส่งกดดันต่อราคาลดลง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐฯ กลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและเพิ่มกำลังการผลิตขึ้น โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 17 พ.ย. 2559 ปรับตัวลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น หลังปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 158 แท่นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวแตะระดับ 45 - 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 25 พ.ย. ปรับเพิ่ม 3 แท่นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ระดับ 474 แท่น