- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 22 November 2016 18:52
- Hits: 12270
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดคาดกลุ่มโอเปกอาจได้ข้อสรุปการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 4 ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังตลาดคาดว่าการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 25 พ.ย. นี้ จะส่งผลให้ประเทศสมาชิกต้องจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ โดยซาอุดิอาระเบียพยายามเริ่มการพูดคุยเพื่อให้สมาชิกอื่นเห็นด้วยกับแผนจำกัดการผลิตนี้
+ สัปดาห์ก่อนโอเปกได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้อิหร่านคงกำลังการผลิตที่ 3.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งใกล้เคียงกับระดับที่อิหร่านจะยอมรับที่ 4.0-4.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้ตลาดมีความหวังว่าอิหร่านจะไม่เป็นอุปสรรคในการตกลงของการประชุมกลุ่มโอเปก
+ Goldman Sachs ให้ความเห็นว่าโอกาสที่กลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิตมีมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 การผลิตจากกลุ่มโอเปกจะลดมาที่ระดับ 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่รัสเซียจะคงกำลังการผลิตที่ 11.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งอุปทานในตลาดโลกที่ลดลง ประกอบกับอุปสงค์มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น อาจส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบเกิดภาวะอุปทานขาดตลาดได้ ซึ่งสภาวะนี้เองจะขับเคลื่อนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดีหากการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงกันได้ ก็อาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบมีส่วนเกินประมาณ 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในไตรมาส 1 ปี 2560
+ นายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่ารัสเซียพร้อมที่จะคงกำลังการผลิตในระดับการผลิตปัจจุบัน และทำตามที่กลุ่มโอเปกคาดหวังไว้ ซึ่งข้อสรุปนี้ต้องรอดูผลจากการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและกลุ่มนอกโอเปก (Non-OPEC) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการซื้อขายน้ำมันเบนซินในเอเชียยังคงเบาบาง ขณะที่อุปทานมีแนวโน้มปรับเพิ่มเนื่องจากโรงกลั่นแห่งหนึ่งในไต้หวันมีการซื้อวัตถุดิบเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของประเทศแทนซาเนียและอียิปต์
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ด้วยแรงหนุนของอุปสงค์ที่ดีในเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดี อุปทานในภูมิภาคโดยภาพรวมยังคงล้นตลาด
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 25 พ.ย. นี้ โดยตลาดคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปกที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดี ยังคงมีความเสี่ยงที่กลุ่มโอเปกจะไม่สามารถตกลงกันได้ หลังปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปกปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 33.64 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียมีแนวโน้มปรับลดลง หลังล่าสุดกลุ่ม Niger Delta Avengers โจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ Bonny Light ที่มีปริมาณการผลิตโดยเฉลี่ยราว 0.21 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2559 ซึ่งนับเป็นการโจมตีครั้งที่สองต่อเนื่องจากต้นเดือน พ.ย. ที่กลุ่มดังกล่าวได้ทำการโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ Forcados
ตลาดมีความกังวลกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดในสหรัฐฯ มากขึ้น หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.2% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย. 2559 ที่ปรับเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล