- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 17 November 2016 18:22
- Hits: 5035
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
- ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากประเด็นในเรื่องของการปรับลดกำลังการผลิตของรัสเซียและกลุ่มโอเปก
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ย. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสามสัปดาห์ติดต่อกัน และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น
+ นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะสนับสนุนในเรื่องของการคงกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก และมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มโอเปกจะตัดสินใจคงกำลังการผลิตในวันที่ 30 พ.ย. 59 นอกจากนี้ นายโนวัค ยังกล่าวอีกด้วยว่า เขาอาจจะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย ในสัปดาห์นี้
+ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของกลุ่มโอเปกและรัสเซียมีแนวโน้มที่จะจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันศุกร์นี้ที่กรุงโดฮา เพื่อหารือในเรื่องของการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ ก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ย. อย่างไรก็ดีรัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่านจะไม่เข้าการประชุมในวันศุกร์นี้ แต่จะส่งผู้ว่าการโอเปกประจำอิหร่านเข้าประชุมแทน
-/+ นักวิเคราะห์จาก Interfax Energy ลอนดอน กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบจะผันผวนมากขึ้น เมื่อเข้าใกล้การประชุมของกลุ่มโอเปก ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับอุปสงค์เพิ่มขึ้นจากประเทศอินโดนีเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานยังคงล้นตลาดในภูมิภาคหลังโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับโรงกลั่นในประเทศจีนคงการส่งออกน้ำมันดีเซลในระดับสูงต่อเนื่องในเดือน พ.ย.
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมัดนิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังกังวลว่ากลุ่มโอเปกตกลงกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรลได้หรือไม่ จากตัวเลขคาดการณ์ล่าสุด เดือน ต.ค. ที่ 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่าหากกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงได้ จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบจะยังคงล้นตลาดต่อเนื่องในปี 2017
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คนใหม่ ที่มีนโยบายในเชิงสุดโต่ง ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 11 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้