- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 16 November 2016 18:59
- Hits: 4085
ราคาน้ำมันดิบทะยานกว่าร้อยละ 6 จากความคาดหวังต่อผลการประชุมของกลุ่มโอเปก
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่าร้อยละ 6 โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นระหว่างวันที่มากที่สุดในรอบ 7 เดือน จากความคาดหวังของตลาดอีกครั้งต่อการประชุมกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. ที่จะถึงนี้ โดยตลาดคาดหวังว่ากลุ่มโอเปกอาจเจรจาเพื่อลดกำลังการผลิตลงได้สำเร็จ
+ ความคาดหวังดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากการที่นายพล Mohammed Barkindo เลขาธิการประจำกลุ่มโอเปกจะเดินทางไปยังประเทศอิหร่านเพื่อหารือเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิต และเข้าพบกับนาย Nicolas Maduro ประธานาธิบดีประเทศเวเนซุเอลา ที่กรุง Caracas เพื่อหารือเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตเช่นกัน
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงสนับสนุนจากการที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานซาอุดิอาระเบียอาจเข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานรัสเซียที่ประเทศกาต้าร์ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและกลุ่ม non-OPEC อีกครั้ง
+ ความกังวลต่อปริมาณอุปทานน้ำมันดิบที่ลดลงในไนจีเรีย หลังท่อขนส่งน้ำมันหลัก Nembe Creek Trunk Line ขนาดกำลังการขนส่ง 300,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของพื้นที่ Niger Delta ถูกโจมตีโดยกลุ่ม Niger Delta Avengers ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายนี้ได้กล่าวว่าจะยังคงโจมตีต่อไปจนกว่าจะมีการเจรจาที่แน่ชัด
- อย่างไรก็ดี หลังตลาดปิดการซื้อขายได้มีการรายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จากสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ หรือ API ปรับตัวขึ้นกว่า 3.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 489 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดในสหรัฐฯ ประกอบกับโรงกลั่นในประเทศเกาหลีใต้กลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งหลังจากปิดซ่อมบำรุงไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยอุปทานยังคงล้นตลาดเนื่องจากไม่สามารถส่งออกไปยังตะวันตกได้จากความไม่คุ้มทุน นอกจากนี้โรงกลั่นในประเทศเกาหลีใต้มีความพยายามที่จะส่งออกน้ำมันดีเซลหลังการทดสอบการผลิตในเดือนตุลาคมประสบความสำเร็จ
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดินในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังกังวลว่ากลุ่มโอเปกตกลงกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรลได้หรือไม่ จากตัวเลขคาดการณ์ล่าสุด เดือน ต.ค. ที่ 33.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) กล่าวว่าหากกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงได้ จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบจะยังคงล้นตลาดต่อเนื่องในปี 2017
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คนใหม่ ที่มีนโยบายในเชิงสุดโต่ง ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เริ่มปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยสัปดาห์ล่าสุด ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้