- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 04 November 2016 20:03
- Hits: 14083
ราคาน้ำมันดิบปรับลดจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาดและตลาดทุนสหรัฐฯ ที่อ่อนตัว
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลัง Genscape เผยถึงปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คุชชิ่ง โอกลาโฮม่า ปรับเพิ่มขึ้นราว 1.2 ล้านบาร์เรล เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้ตลาดในเชิงของอุปทานต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานถึงปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ต.ค. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 14.4 ล้านบาร์เรล
- ขณะที่นักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อเนื่องเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการปรับลดลงหรือการคงกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) ว่าอาจจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากโอเปกยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดของกลุ่มประเทศสมาชิกว่าจะต้องปฏิบัติกับข้อตกลงนี้อย่างไร การประชุมที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. นี้อาจไม่ได้มีผลสรุปที่ชัดเจน
- ตลาดทุนที่อ่อนตัวลงในสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันดิบ หลังดัชนีหุ้น S&P 500 ดิ่งลงต่อเนื่องเป็นเวลา 8 วัน เนื่องจากราคาหุ้นของ Facebook ซึ่งเป็นบริษัท Online Social Media ที่ใหญ่ที่สุดในโลกปรับตัวลดลงราวร้อยละ 5.7 หลังผลประกอบการในไตรมาส 4 มีแนวโน้มอ่อนตัว ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึงระหว่าง Hillary Clinton (พรรค Democrat) และ Donald Trump (พรรค Republican) ส่งผลให้มีความเชื่อมั่นต่อการลงทุนน้อยลง
+ กำลังการผลิตน้ำมันดิบของประเทศไนจีเรียที่กำลังฟื้นตัวกลับต้องหยุดชะงัก หลังกองกำลังทหารสั่งปิดท่อขนส่ง Trans Forcados เนื่องจากเกิดการโจมตีจากผู้ก่อการร้าย ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของประเทศปรับลดลงอย่างน้อย 200,000 บาร์เรลต่อวัน และการส่งออกน้ำมันผ่านทางท่อขนส่งนี้ต้องหยุดชะงักลง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเวียดนามกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงหน่วยผลิตน้ำมันเบนซินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่การทำสัญญาว่าด้วยปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของประเทศอินโดนีเซียในปี 2560 ยังคงไม่ชัดเจน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ แต่ตลาดน้ำมันดีเซลค่อนข้างทรงตัวและได้รับผลกระทบน้อยมากจากเหตุการณ์ที่ท่อขนส่งน้ำมัน Colonial ทางตะวันออกของสหรัฐฯ ระเบิด แม้ว่าการส่งออกน้ำมันดีเซลจากประเทศจีนจะปรับเพิ่มขึ้นแต่การฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในภูมิภาคยังคงคลอบคลุม
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปกที่กำหนดเพดานการผลิตไว้ที่ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรล เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน หลังกลุ่มโอเปกไม่สามารถตกลงเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 28 – 29 ต.ค. ประกอบกับ อุปทานจากลิเบีย และ ไนจีเรียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ประเทศนอกกลุ่มโอเปกเช่น บราซิล และ คาซัคสถาน เนื่องจากมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยกลุ่มโอเปกจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. นี้
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกคาดการณ์โดยสำนักข่าว Reuters มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ มาสู่ระดับ 33.83 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ต.ค. จากระดับ 33.69 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. โดยเพิ่มขึ้นจากไนจีเรีย ลิเบีย และ อิรัก ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลมากขึ้นว่าข้อตกลงของผู้ผลิตกลุ่มโอเปกจะไม่ประสบความสำเร็จ