- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 31 October 2016 19:56
- Hits: 3225
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดกังวลกับความไม่แน่นอนในข้อตกลงลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจากการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าอิหร่านเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ข้อตกลงในการประชุมนี้ไม่บรรลุผล หลังอิหร่านยืนยันที่จะขอรับการยกเว้นให้ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามต้องการ ส่งผลให้ตลาดไม่มั่นใจว่าผู้ผลิตจะยังคงทำตามแผนลดกำลังการผลิตของกลุ่มที่ประกาศไว้ในการประชุม International Energy Forum ในวันที่ 26 - 28 ก.ย. ได้หรือไม่
- CFTC รายงานสถานการณ์การลงทุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ต.ค. พบว่านักลงทุนปรับลดการถือครองสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าลงจากสัปดาห์ก่อน 27,653 สัญญา มาอยู่ที่ 268,978 สัญญา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ที่นักลงทุนปรับลดการถือครองสัญญา โดยสาเหตุมาจากความกังวลว่าข้อตกลงของกลุ่มโอเปกในการลดกำลังการผลิตจะบรรลุผลได้หรือไม่
+ เจ้าหน้าที่กลุ่มโอเปกบางคน รวมถึงนายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปกยังเชื่อว่าการประชุมระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 - 29 ต.ค. จะส่งผลเชิงบวกต่อราคาน้ำมัน โดยคาดว่าในวันที่ 29 ต.ค. จะมีประเทศนอกกลุ่มโอเปกที่ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมได้แก่ รัสเซีย, คาซัคสถาน, เม็กซิโก, โอมาน, อาเซอร์ไบจาน, บราซิล, และ โบลิเวีย อย่างไรก็ตาม การประชุมในวันที่ 29 ต.ค. กลับมีผู้เข้าร่วมเพียง 6 ประเทศ คือ รัสเซีย, คาซัคสถาน, เม็กซิโก, โอมาน, อาเซอร์ไบจาน, และบราซิล
+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ต.ค. ปรับตัวลดลง 2 แท่น มาสู่ระดับ 441 แท่น ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 59 ที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับลดลง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในเดือนนี้จะทรงตัวอยู่ในระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับราคาที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะกระตุ้นให้ปริมาณแท่นจุดเจาะน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นก็ตาม
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินถูกกดดันจากอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากภูมิภาคเอเชียเหนือในเดือน ธ.ค. หลังจากกลับมาจากช่วงโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ยังมีแรงซื้อจากเคนย่า และ อินเดียที่ช่วยหนุนราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานภายในภูมิภาคเอเชียยังคงมีมากจากอัตราการผลิตของโรงกลั่นในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับ นักค้าน้ำมันในเอเชีย และตะวันออกกลางไม่สามารถส่งออกน้ำมันดีเซลได้ เนื่องจากไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ปรับตัวลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 1 – 2 พ.ย. นี้ ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยตลาดคาดว่าในการประชุมครั้งนี้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดจะเป็นการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.