WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL44ไทยออยล์ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 31 ต.ค.-4 พ.ย. 59 และสรุปสถานการณ์ฯ 24-28 ต.ค. 59

           

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (31 ต.ค. -4 พ.ย. 59)

 ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะผันผวนต่อเนื่อง เนื่องจากโอเปกอาจจะไม่ดำเนินแผนการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มลง หลังจากที่ไม่สามารถตกลงกันได้ในรายละเอียดของการลดกำลังการผลิตในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 28 ตค. ที่ผ่านมา  นอกจากนั้นอิหร่านยังยืนยันที่จะขอส่วนแบ่งทางการผลิตกลับคืนมาในจำนวนที่เท่าเดิมก่อนที่จะถูกคว่ำบาตร รวมถึงปริมาณการผลิตจากไนจีเรียและลิเบียปรับเพิ่มขึ้นมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี โดยภาพรวมราคายังคงมีแรงสนับสนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับลดลง หลังโรงกลั่นเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบมีแนวโน้มลดลง

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

  จับตาท่าทีของกลุ่มโอเปกต่อประเด็นการปรับลดกำลังการผลิตว่าจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่  หลังจากที่การประชุมในวันที่ 28 ตค. จบลงโดยที่ไม่สามารถหาข้อสรุปการลดกำลังการผลิตให้อยู่ในระหว่าง 32.5 ถึง 33 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ นอกจากนั้นอิหร่านไม่เห็นด้วยที่จะลดกำลังการผลิต รวมถึงอิรักออกมาเรียกร้องขอรับการยกเว้นในการปรับลดกำลังการผลิต เนื่องจากอิรักต้องการรายได้สำหรับการต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายของรัฐอิสลาม (ไอเอส) ประกอบกับ ไนจีเรียและลิเบียที่ปริมาณการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังความขัดแย้งในประเทศที่คลี่คลายลงส่งผลให้ผู้ผลิตสามารถกลับมาดำเนินการผลิตและส่งออกได้ตามปกติ ทั้งนี้แผนการประชุมเรื่องการจำกัดการผลิตของโอเปกจะมีเป็นทางการในวันที่ 25 พ.ย. นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พย. ในการสรุปกำลังการผลิตรายประเทศ

  ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบโดยเฉพาะจากแคนาดามีแนวโน้มปรับลดลง หลังมีการปิดซ่อมท่อขนส่งน้ำมันดิบ Seaway โดยในสัปดาห์ล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ปรับตัวลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 7 สัปดาห์ติดต่อกัน

  จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย. นี้ ว่าเฟดจะมีการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วนี้หรือไม่ โดยตลาดคาดว่าในการประชุมครั้งนี้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งถัดไป ในเดือน ธ.ค. ตลาดคาดว่ามีโอกาสถึงร้อยละ 76 ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ

  ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มปริมาณการขุดเจาะอย่างช้าๆ โดยจากรายงานของ Baker Hughes พบว่าผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีการลดจำนวนแท่นขุดเจาะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิย.ที่ผ่านมา โดยรวมลดลง 2 แท่น ส่งผลให้ปริมาณการขุดเจาะล่าสุด (สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ต.ค.) ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับ 442 แท่น                

  ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตและบริการยูโรโซน ดัชนีการผลิตและบริการสหรัฐฯ และ GDP ไตรมาส 3/2016 สหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (24 - 28 ต.ค. 59)

  ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 2.15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 48.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง 2.07 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 49.71 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 48 เหรียญสหรัฐฯ หลังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปกเรื่องมาตรการลดกำลังการผลิตในวันที่ 30 พ.ย. ว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ หลังอิรักต้องการที่จะรับการยกเว้นจากแผนการปรับลดการผลิตกลุ่มโอเปก นอกจากนี้ราคายังถูกกดดันจากอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังแหล่งผลิต Buzzard มีแผนจะกลับมาผลิตอีกครั้งในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด วันที่ 21 ต.ค. ที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.5 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 468.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงเช่นกัน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!