- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Saturday, 29 October 2016 14:55
- Hits: 4584
ราคาน้ำมันดิบดีดตัว หลังท่าทีในการลดกำลังการผลิตของโอเปกมีความชัดเจนขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังท่าทีของซาอุดิอาระเบียและกลุ่มโอเปกในการจำกัดเพดานการผลิตมีความชัดเจนขึ้น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานรัสเซียว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกมีความประสงค์ที่จะลดกำลังการผลิตลงประมาณร้อยละ 4 จากระดับการผลิตที่สูงที่สุดของกลุ่ม
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลที่เปิดเผยโดย Genscape ว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ได้ปรับตัวลดลง 650,000 บาร์เรลเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
- แม้ว่ากลุ่มโอเปกได้ออกมาแสดงเจตจำนงในการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง แต่ทางด้านนาย Jabar Ali al-Luaibi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอิรัก ผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับที่สองในกลุ่มโอเปก ได้ออกมาแถลงว่า อิรักไม่มีความประสงค์ที่จะลดกำลังการผลิตลง และขอเป็นประเทศยกเว้นร่วมกับลิเบีย ไนจีเรีย และอิหร่าน ซึ่งเป็นประเทศที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศ หรือได้รับการคว่ำบาตรในอดีต เนื่องจากอิรักต้องการเงินทุนจำนวนมากจากการค้าขายน้ำมันดิบเพื่อใช้ในการทำสงครามกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ISIS
- นาย Fayadh al-Nema รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอิรักเปิดเผยว่า กำลังการผลิตน้ำมันดิบของอิรักได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8 ล้านบาร์เรล และยอดการส่งออกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน โดยปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ท่อส่งน้ำมันดิบ Kurdish กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง หลังจากต้องปิดทำการไปในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาระหว่างรัฐบาลกรุงแบกแดดและรัฐบาลท้องถิ่นของ Kurdish (KRG)
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินในเอเชียได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันเบนซิน U.S. RBOB ที่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าน้ำมันเบนซินจากภูมิภาคเอชียตะวันออกจะไม่สามารถส่งไปยังตะวันออกกลางได้เนื่องจากไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่อุปสงค์ในภูมิภาคยังคงทรงตัวในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดี อุปทานภายในภูมิภาคเอเชียยังคงมีมากจากการที่ค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูง เป็นผลให้โรงกลั่นยังคงเดินหน้าผลิตน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งยอดการส่งออกในเดือนกันยายนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.6 ล้านตัน
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 – 29 ต.ค. ที่เมืองเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับเพดานปริมาณการผลิตของแต่ละประเทศในกลุ่มโอเปก และระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต พร้อมกันนี้ กลุ่มโอเปกจะเชิญผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ปรับตัวลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 1 –2 พ.ย. นี้ ว่าเฟดจะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วนี้หรือไม่ โดยตลาดคาดว่าในการประชุมครั้งนี้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดจะเป็นการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.