- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 19 October 2016 19:14
- Hits: 3227
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับลดสวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
+ ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปก หลังจากมีข้อตกลงเกี่ยวกับการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมันดิบในการประชุมเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 13 โดยกลุ่มโอเปกจะจัดการประชุมขึ้นอีกครั้งเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในวันที่ 30 พ.ย. ที่จะถึงนี้
+ ราคาน้ำมันดิบยังปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 3.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล
+ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจาก Bernstein Energy เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 17 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 5.6 พันล้านบาร์เรลในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2015
- อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศอิหร่านประจำเดือน ต.ค. ว่าจะมีแนวโน้มทรงตัวใกล้ระดับเดียวกันในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยกำลังการผลิตของประเทศอิหร่าน ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตของประเทศขึ้นไปสู่ระดับ 5 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2020 อีกด้วย
- นาย Phil Davis นักค้าน้ำมันจาก PSW investments ในรัฐนิวเจอร์ซี เผยว่าทางบริษัทได้ทำการขายชอร์ตสัญญาน้ำมัน WTI ล่วงหน้าที่ราคา 51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากเขามีความเห็นว่า ความเป็นไปได้ของกลุ่มโอเปกที่จะปรับลดกำลังการผลิตลงเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบนั้นเป็นไปได้ยาก และยังคาดว่าราคาน้ำมันดิบมีโอกาสที่จะปรับลดลงถึงระดับ 37.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลหรือต่ำกว่า ภายในปีนี้ด้วย
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยตัวเลขการนำเข้าน้ำมันเบนซินของประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี อุปทานภายในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูงจากการที่ประเทศจีนยังคงส่งออกน้ำมันเบนซินออกมามาก
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียเหนือที่ยังคงอยู่ในฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง รวมถึงโรงกลั่นขนาดใหญ่ในซาอุดิอาระเบียมีแนวโน้มที่จะปิดซ่อมบำรุงภายในไตรมาสนี้ ส่งผลให้อุปทานบางส่วนจะขาดหายไปจากตลาด นอกจากนี้ ยังมีอุปสงค์จากประเทศทางแถบตะวันออกกลางช่วยหนุนตลาดน้ำมันดีเซลในเอเชียอีกด้วย
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ข่าวความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและรัสเซียคาดว่าจะหนุนราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจับตาดูการประชุมในวันที่ 28-29 ต.ค. อีกครั้งเพื่อพิจารณาปริมาณการผลิตและจะทำการเชิญผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วยเช่นกัน
การเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรียคาดว่าจะส่งผลกดดันราคาน้ำมัน หลังมีการคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบและคอนเดนเสทในเดือน พ.ย. อาจแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากประเทศกลับมาส่งออกน้ำมันดิบ Bonny light, Qua lboe และ Forcados ได้อีกครั้ง
ท่าเรือ Zueitina, Ras Lanuf, และ Es Sider หลังจากที่กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบของประเทศปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.54 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ต.ค. จากที่เคยผลิตอยู่ที่ระดับ 0.485 และ 0.32 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. และ เดือน ส.ค. ตามลำดับ