- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 30 July 2014 23:02
- Hits: 3000
เบรนท์ปรับเพิ่ม หลังสหรัฐฯ-อียู บรรลุข้อตกลงเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงินต่อรัสเซีย
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นว่าด้วยการเพิ่มมาตราการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้รัสเซียมีการใช้กำลังทหารแทรกแซงสถานการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครน ทั้งนี้ข้อตกลงเบื้องต้นมุ่งคว่ำบาตรในภาคเศรษฐกิจของรัสเซียที่สำคัญ อาทิเช่น ธุรกิจด้านน้ำมันและเทคโนโลยีด้านการทหาร เป็นต้น
+ โรงกลั่นน้ำมัน CVR Energy Inc's กำลังการผลิต 115,000 บาร์เรลต่อวัน ในรัฐแคนซัส เกิดเหตุเพลิงใหม้ในหน่วยกลั่นน้ำมันเบนซินเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้คนงานได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าหน่วยกลั่นดังกล่าวจะสามารถกลับมาดำเนินการตามปกติได้เมื่อใด
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดว่าจะปรับลดลงเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันเบนซินและกลุ่มน้ำมันทำความร้อนคงคลัง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.06 และ 0.54 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ
+ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ประจำเดือน ก.ค. 57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90.9 จุด สูงกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 85.5 จุด นอกจากนั้น ระดับความเชื่อมั่นในเดือนก่อนหน้าถูกปรับทบทวนจากการเติบโตที่ระดับ 85.2 จุด มาอยู่ที่ระดับ 86.4 จุด นับเป็นสัณญาณที่บ่งชี้ว่าภาคผู้บริโภคสหรัฐฯ มีการปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของสถานการณ์ตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ และ ยุโรป ที่อยู่ในสภาวะอ่อนแรง อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าโรงกลั่นบางส่วนอาจมีการลดกำลังการผลิตลงภายหลังส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่อยู่ในระดับต่ำ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ ภายหลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ที่ระดับ 11 ล้านบาร์เรล อย่างไรตาม สภาวะตลาดโดยรวมยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปริมาณอุปทานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 98-105 เหรียญฯ
ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 105-111 เหรียญฯ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของสหรัฐ และสหภาพยุโรป ที่จะมีต่อรัสเซีย โดยล่าสุดสหรัฐฯ ย้ำว่าการคว่ำบาตรจะเน้นที่บริษัทน้ำมัน บริษัทผู้ผลิตอาวุธและเจ้าหน้าที่ของทางการรัสเซีย ขณะที่ทางกลุ่มอียูเรียกร้องให้หลายธนาคารในยุโรประงับการให้เงินลงทุนใหม่แก่รัสเซีย
การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียแม้จะกลับมาเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง จากเดิมในช่วงต้นปีที่ระดับ 200,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ราว 450,000 – 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงในประเทศยังคงน่าจับตามองเพราะอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศได้
ติดตามการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักที่ล่าสุดยังคงดำเนินไปตามปกติ และคาดว่าในเดือน ก.ค. จะส่งออกน้ำมันดิบสูงถึงราว 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม จับตาการจัดตั้งรัฐบาลอิรักที่ล่าสุดยังคงล่าช้าออกไปอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นหลายแห่งปรับเพิ่มการผลิตขึ้น ส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สมดุลกับความต้องการใช้ในช่วงหน้าร้อนนี้