- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 14 October 2016 10:14
- Hits: 3729
PTT ตั้งงบลงทุนธุรกิจน้ำมันในอาเซียน 5 ปี (ปี 59-63) 4.5 พันลบ.หวังสร้างรายได้ 5.5 หมื่นลบ./ปี
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า ปตท.ตั้งงบลงทุนธุรกิจน้ำมันในอาเซียนช่วง 5 ปี (ปี 59-63) ราว 4.5 พันล้านบาท หวังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 5.5 หมื่นล้านบาท/ปี จากปัจจุบันที่ทำได้ราว 2.4 หมื่นล้านบาท/ปี หลังมองตลาดอาเซียนเติบโตมาก ขณะที่จะช่วยสร้างแบรนด์คนไทยให้เป็นที่นิยมในตลาดอาเซียน พร้อมทั้งดึงเอสเอ็มอีแบรนด์จากไทยให้ขยายตัวตามไปด้วย
"ปตท.มีนโยบายขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง...การขยายธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของปตท.นั้น เป็นไปตามแนวนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยให้มีช่องทางขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยอาศัยการเปิดตลาดควบคู่ไปกับแบรนด์ปตท."นายอรรถพล กล่าว
นายอรรถพล กล่าวว่า ตามแผนการลงทุน 5 ปีในอาเซียนดังกล่าว จะขยายสถานีบริการน้ำมันเป็น 500 แห่งจาก 170 แห่งในปัจจุบัน ขยายร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน เป็น 200 สาขา จาก 37 สาขาในปัจจุบัน และร้านค้าสะดวกซื้อจิฟฟี่ เป็น 200 สาขา จาก 24 สาขาในปัจจุบัน
สำหรับ สถานีบริการน้ำมันปตท.ในอาเซียน ปัจจุบันมีอยู่ในลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ขณะที่ในเมียนมา มีสถานีบริการน้ำมันในรูปแบบของปตท.แต่ยังไม่สามารถใช้แบรนด์ ปตท.ได้เพราะเมียนมา ยังไม่เปิดให้มีการใช้แบรนด์จากต่างชาติ
ส่วนร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน นับว่ามีการขยายตัวอย่างมากจากการตอบรับของคนรุ่นใหม่ โดยปัจจุบันได้มีการขายมาสเตอร์แฟรนด์ไชส์ ให้บริษัท ปตท. (กัมพูชา) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกัมพูชาแล้ว และมีผู้ประกอบการในกัมพูชามากกว่า 100 รายสนใจจะเข้าร่วมประกอบธุรกิจด้วยในรูปแบบแฟรนด์ไชส์ต่อไป และในปลายปีนี้คาดว่าจะขายมาสเตอร์แฟรนด์ไชส์ให้กับบริษัทลูกในลาวด้วยเช่นกัน ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะเริ่มเห็นแฟรนด์ไชส์คาเฟ่ อเมซอนในเมียนมา ต่อไป
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ตามแผน 5 ปี ปตท.จะใช้เงินลงทุนธุรกิจน้ำมันในกัมพูชาราว 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากมองว่ากัมพูชา ยังมีศักยภาพเติบโตมากจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่เติบโตราว 7% ต่อปี ทำให้มีเป้าหมายที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 90 แห่งภายในปี 63 จาก 28 แห่งในปัจจุบัน ขณะที่ร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ก็นับว่าขยายตัวได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 19 แห่ง และตามแผนคาดว่าจะเพิ่มเป็น 60 แห่งในปี 63 แต่ก็มีแนวโน้มที่จะทำได้มากกว่าแผนทำให้ต้องปรับแผนการขยายงานในส่วนนี้ใหม่อีกครั้ง
ทั้งนี้ กัมพูชามีความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปประมาณ 3.24 พันล้านลิตรในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากเวียดนาม ไทย และสิงคโปร์ โดยยังไม่มีการผลิตภายในประเทศ ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่เป็นบริษัทท้องถิ่น และมีบริษัทพลังงานข้ามชาติ อย่าง ปตท. โททาล และคาลเท็กซ์ เข้าไปเปิดตลาด
สำหรับ ความต้องการใช้น้ำมันแยกตามประเภทจะพบว่ามีความต้องการใช้น้ำมันดีเซล 54% เบนซิน 33% ส่วนที่เหลือเป็นก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) น้ำมันอากาศยาน (JET) และน้ำมันเตา โดยปตท.มีส่วนแบ่งตลาดน้ำมันในกัมพูชาราว 5% และปีหน้ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นและแซงแบรนด์ต่างชาติอย่างโททาล ที่มีส่วนแบ่งตลาดที่ 6%
ปตท.ดำเนินธุรกิจในกัมพูชาผ่าน บริษัท ปตท. (กัมพูชา) จำกัด ซึ่งทำธุรกิจจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมครบวงจร ได้แก่ ตลาดพาณิชย์ ที่ประกอบด้วย น้ำมันอุตสาหกรรม ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ตลาดเรือขนส่ง ธุรกิจหล่อลื่น และตลาดขายปลีก ที่ประกอบด้วย สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ปตท.ยังอยู่ระหว่างทบทวนแผนลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 60-64) ใหม่ซึ่งเป็นตามภาวะปกติ โดยจะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการในปลายปีนี้ ส่วนแผน 5 ปีเดิมสำหรับธุรกิจน้ำมันนั้นจะใช้งบลงทุนในไทยราว 2 หมื่นล้านบาท และในอาเซียน 4.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนในปีนี้สำหรับในไทย 6.5 พันล้านบาท และในอาเซียน 1.5 พันล้านบาท
การขยายธุรกิจในอาเซียนนั้น ปตท.จะดึงเอสเอ็มอีแบรนด์ไทย 12 แบรนด์ที่เป็นคู่ค้าทางธุรกิจกับปตท.ร่วมเปิดตลาดควบคู่กันไปด้วย อาทิ 'ปึงหงี่เชียง''หมูปิ้งเพียวกริลพิร์ก''ไก่ย่างห้าดาว’’แบล็คแคนยอน’’ยูนานขาหมู’ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นการสนับสนุนนโยบายประชารัฐที่ต้องการให้เอกชนรายใหญ่สนับสนุนผู้ประกอบรายเล็กอย่างพี่เลี้ยงน้อง
อินโฟเควสท์