- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 10 October 2016 19:48
- Hits: 5387
ไทยออยล์ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 10-14 ต.ค. 59 และสรุปสถานการณ์ฯ 3-7 ต.ค. 59
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (10 - 14 ต.ค. 59)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง หลังคาดในการประชุมสัปดาห์นี้ระหว่างผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก โดยคาดว่าจะมีการหารือพูดคุยถึงความร่วมมือระหว่างกลุ่มโอเปกและรัสเซีย ในการปรับลดหรือคงกำลังการผลิต
นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงหนุนจาก ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล และผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีการทำประกันความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาสำหรับปริมาณการผลิตในปีหน้า ประกอบกับ อุปทานจากไนจีเรียและลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
จับตาการประชุมระหว่างผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกและรัสเซียในงาน World Energy Conference ในวันที่ 9 – 13 ต.ค. ว่าจะมีการหารือถึงการที่จะขอความร่วมมือจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกให้ลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวันก่อนที่จะมีการประชุมที่กรุงเวียนนาหรือไม่ โดยรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน และอิรัก จะเป็นตัวแทนของกลุ่มโอเปกเพื่อเข้าร่วมประชุมกับรัสเซียเพื่อการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดีคาดว่าจะไม่มีการตัดสินใจใดๆ แต่การประชุมดังกล่าวจะทำให้เกิดโอกาสสำหรับการหารือกันถึงก้าวต่อไป
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย. ปรับตัวลดลง 3.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล โดยปริมาณน้ำมันดิบปรับลดลงไปกว่า 26 ล้านบาร์เรลในเดือนที่ผ่านมา จนลงแตะระดับ 499.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำกว่าระดับ 500 ล้านบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใกล้ระดับ 50 เหรียญ ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มปริมาณการขุดเจาะขึ้นต่อเนื่อง โดย Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 7 ตค. ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 แท่น มาสู่ระดับ 428 แท่น ซึ่งคิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดนับจากเดือน กพ.
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบไนจีเรียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
หลังล่าสุดน้ำมันดิบ Qua Iboe สามารถกลับมาส่งออกได้รวมทั้งสิ้นแล้ว 2 ลำ ในขณะที่ ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบ Forcados คาดจะกลับมาในเร็วนี้ หากสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดได้ตามคาดจะส่งผลให้โดยรวมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นราว 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ไนจีเรียยังคงเผชิญความเสี่ยงกับการโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ หลังในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มติดอาวุธ Niger Delta Avenger กลับมาทำการโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบ Bonny Light อีกครั้ง หลังจากในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาได้มีการประกาศหยุดยิงไป
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ และ ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคจีน
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (26 - 30 ก.ย. 59)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 49.81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.83 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 51.93 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 49 เหรียญสหรัฐฯ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา มาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ 499.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนั้น ราคายังคงได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากข้อตกลงของกลุ่มโอเปกที่ผ่านมาที่จะปรับลดกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อิหร่านได้กระตุ้นให้ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ออกมาให้ความร่วมมือเกี่ยวกับข้อตกลงที่จะลดกำลังการผลิต ซึ่งอิหร่านให้เหตุผลสนับสนุนว่า หากมีการร่วมกันหลายประเทศจะสามารถสร้างความมั่นใจต่อข้อตกลงดังกล่าวได้มากยิ่งขึ้น