- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 06 October 2016 22:43
- Hits: 5328
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มหลัง EIA รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ห้า
+ ตลาดน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากรายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่ปรับตัวลดลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมาและเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ห้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงไปมากกว่า 26 ล้านบาร์เรลจนลงมาแตะระดับ 499.7 ล้านบาร์เรลซึ่งต่ำกว่าระดับ 500 ล้านบาร์เรลเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
- อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องจนลงมาแตะที่ระดับ 499.7 ล้านบาร์เรล แต่ระดับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลานี้ของปี ในขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลคงคลังของสหรัฐฯ ก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 222,000 บาร์เรลและ 702,000 บาร์เรลตามลำดับ
+ ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากข้อตกลงจำกัดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ที่เมืองอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย โดยคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกจะมีการตกลงอย่างเป็นทางการในเชิงนโยบาย ณ เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในเดือนพฤศจิกายน 2559 นี้
+ นอกจากนี้ยังต้องจับตาการหารือระหว่างกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม หลังรัฐมนตรีด้านพลังงานของแอลจีเรียได้แถลงในวันพุธที่ผ่านมาว่า กลุ่มโอเปกจะเดินหน้าพูดคุยกับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ นอกกลุ่มโอเปก ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้ผลิตน้ำมันกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันที่ 8-13 ตุลาคม 2559 นี้ เพื่อหารือถึงวิธีการปฏิบัติข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ได้มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ของกลุ่มโอเปก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงกดดันจากกลับมาดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศอินเดียหลังจากเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่อยู่ในระดับสูงจากประเทศเวียดนามและอียิปต์ ประกอบกับประเทศญี่ปุ่นมีการส่งออกน้ำมันดีเซลลดลงร้อยละ 12.4 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีนและอินเดีย
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาท่าทีของกลุ่มโอเปกและการเจรจาของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกกับผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซีย ภายหลังที่สามารถบรรลุข้อตกลงในการคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับ 32.5 - 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวและสัดส่วนโควตาจะมีการพิจารณาอีกครั้งในการประชุมโอเปกครั้งถัดไปในวันที่ 30 พ.ย.
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียและไนจีเรียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดลิเบียปรับเพิ่มกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 0.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากระดับการผลิตในเดือนก่อนหน้าที่ประมาณ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังสามารถส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือ Ras Lanuf ได้ในช่วงที่ผ่านมา