- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 20 September 2016 22:17
- Hits: 5491
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังท่าส่งออกน้ำมันดิบในลิเบียถูกบุกยึด และค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดเหตุการณ์บุกยึดท่าส่งออกน้ำมันดิบ Ras Lanuf ในลิเบียจากกลุ่ม Libyan National Army (LNA) ภายหลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) เตรียมพร้อมที่จะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบหลังจากท่าส่งออกสามารถกลับมาเปิดดำเนินการส่งออกได้อีกครั้ง ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่หายไป ซึ่งหาก NOC สามารถส่งออกน้ำมันได้ตามปกติ จะทำให้ลิเบียสามารถผลิตน้ำมันได้เพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 600,000 บาร์เรลต่อวันภายใน 1 เดือน ไปสู่ระดับ 950,000 บาร์เรลต่อวันภายในปีนี้
+ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตะกร้าเงินหลัก ส่งผลให้นักลงทุนกลับมาสนใจลงทุนในสัญญาน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ปรับลดลงสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่น
+ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลากล่าวว่ากลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก กำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน โดยคาดว่าจะมีการประกาศข้อตกลงภายในเดือนนี้
- อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ย. จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- สหรัฐฯ สามารถซ่อมท่อขนส่งน้ำมันเบนซิน Colonial Pipeline ที่เกิดการรั่ว เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 59 ได้สำเร็จ ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ สามารถสต็อกน้ำมันเบนซินทางฝั่ง East Coast ได้เพิ่มขึ้น
- ซาอุดิอาระเบียประกาศตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. ที่ระดับ 7.622 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นสูงกว่าในเดือน มิ.ย. ที่ระดับ 7.456 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการกลับมาดำเนินการผลิตของโรงกลั่นประเทศไต้หวันในเดือนนี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินยังคงถูกกดดันจากการส่งออกน้ำมันเบนซินอย่างต่อเนื่องจากโรงกลั่นในประเทศจีน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในประเทศจีนและอินเดียหลังสิ้นสุดฤดูมรสุม ประกอบกับมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในเดือนที่ผ่านมาส่งผลทำให้ปริมาณสต็อกน้ำมันดีเซลในเดือนนี้ลดลง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 41-46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 20 – 21 ก.ย. ตลาดคาดว่ามีโอกาสเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่ามีโอกาสกว่าร้อยละ 40 ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากกลุ่มลิเบียและไนจีเรียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศเริ่มคลี่คลายลง โดยไนจีเรีย เตรียมที่จะมีการเสนอขาย Que Iboe ในสิ้นเดือนนี้แล้ว
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดมีแนวโน้มส่งผลกดดันราคาต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการขนส่งน้ำมันดิบที่กลับมาเป็นปกติ และปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังอุปสงค์เริ่มปรับตัวลดลง