- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 19 September 2016 22:09
- Hits: 6429
ราคาน้ำมันดิบ ปรับลด จากความกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด หลังอิหร่านส่งออกน้ำมันดิบมากขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง เนื่องจากความวิตกกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบล้นตลาด หลังจากมีการประกาศตัวเลขการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของกลุ่มโอเปก ในเดือน ส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค. มากกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับก่อนที่จะมีมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อ 5 ปีก่อน ประกอบกับความต้องการน้ำมันดิบของเอเซียและยุโรปจากอิหร่านปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อิหร่านมีการส่งออกน้ำมันดิบในเดือนนี้ถึง 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ไนจีเรียและลิเบียส่งสัญญาณว่าจะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังความขัดแย้งและเหตุการณ์ไม่สงบภายในประเทศมีแนวโน้มคลี่คลาย โดยไนจีเรียเตรียมพร้อมที่จะส่งออกน้ำมันดิบ Qua Iboe ปลายเดือน ก.ย. นี้ ขณะที่ลิเบียพร้อมที่จะส่งออกน้ำมันดิบ Zueitina และ Ras Lanuf ในทันที หลังได้รับการเปิดท่าเรือส่งออกน้ำมัน
- Baker Hughes รายงานตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 16 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 11 ในช่วง 12 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 416 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบยังคงมีปริมาณน้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่ 644 แท่นด้วยกัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่นักลงทุนหันกลับมาดำเนินการแท่นขุดเจาะอีกครั้งหนึ่ง
+ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ก.ค. ที่ 0.2% และ 1.1% จากปีก่อนหน้า โดยปรับเพิ่มขึ้นจากการบริโภคก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้าที่สูงขึ้น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินในตลาดสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากท่อส่งน้ำมันเบนซินรั่ว และต้องใช้เวลาในการซ่อมบำรุงจนถึงสัปดาห์นี้ ส่งผลต่อปริมาณอุปทานน้ำมันเบนซินขาดหายในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์จากอินเดียเพิ่มเข้ามา อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังคงถูกกดดันจากปริมาณอุปทานที่ยังคงล้นตลาด
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 41-46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในวันที่ 20 – 21 ก.ย. ตลาดคาดว่ามีโอกาสเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดว่ามีโอกาสกว่าร้อยละ 40 ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากกลุ่มลิเบียและไนจีเรียมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มมากขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศเริ่มคลี่คลายลง โดยลิเบียเตรียมที่จะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากท่าขนส่งน้ำมันดิบ Zuwetina,
Es Sider และ Ras Lanuf แล้ว ในขณะที่ไนจีเรีย เตรียมที่จะมีการเสนอขาย Que Iboe ในสิ้นเดือนนี้แล้ว
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดมีแนวโน้มส่งผลกดดันราคาต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการขนส่งน้ำมันดิบที่กลับมาเป็นปกติ และปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังอุปสงค์เริ่มปรับตัวลดลง