- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 16 September 2016 22:59
- Hits: 6304
ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้น ตามตลาดหุ้นหลังสหรัฐฯ ส่อแววขึ้นดอกเบี้ยช้าลง ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าสหรัฐฯ ร่วมส่งแรงหนุน
+ ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นอีกครั้งตามตลาดหุ้นที่ดีขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาค่อนข้างแย่ ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ในการประชุมเดือน ก.ย. นี้ มีแนวโน้มจะล่าช้าออกไป ส่งผลให้มีแรงซื้อขายเข้ามาในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น
+/- กระแสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่ลดลง เกิดขึ้นหลังนักเศรษฐศาสตร์ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไตรมาส 3/59 ของสหรัฐฯ ลงมาอยู่ที่ 2.9% ขณะที่ Fed Atlant เองก็ปรับลดคาดการณ์ลง 0.3% มาอยู่ที่ 3.0% ทั้งนี้สะท้อนจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ที่ปรับลดลงมากกว่าคาดโดยลดลง 0.3% จากเดือนก่อนหน้า ประกอบกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. ที่ปรับลดลง 0.4% หลังการผลิตสินค้าคงทน-ไม่คงทนปรับลดลง นอกจากนี้ ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานประจำสัปดาห์ยังปรับเพิ่มขึ้น 1,000 ตำแหน่งมาอยู่ที่ 260,000 ตำแหน่งในสัปดาห์ล่าสุดด้วย
+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าสหรัฐฯ ที่ดีดตัวสูงขึ้น หลังคาดว่าท่อส่งน้ำมันเบนซิน (Colonial pipeline) ในรัฐอลาบามาที่มีกำลังการขนส่ง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะกลับมาใช้งานได้ในสัปดาห์หน้าซึ่งช้ากว่ากำหนด หลังพบปัญหาท่อรั่ว
- บริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย (NOC) ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่ท่าเรือส่งออกน้ำมันทางตะวันออก 3 ท่า หลังประกาศ Force Majeure มาตั้งแต่เดือน พ.ย. 58 โดย 2 ใน 3 ท่า คือ Zueitna และ Ras Lanuf พร้อมที่กลับมาส่งออกได้ทันที ขณะที่ท่า Brega จะกลับมาดำเนินการในภายหลัง โดยประธาน NOC มองว่าการผลิตน้ำมันดิบของประเทศจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 290,000 มาอยู่ที่ 600,000 บาร์เรลต่อวัน ได้ภายในเวลาเพียง 1 เดือนหากท่าเรืออื่นๆ กลับมาเปิดได้อีกครั้ง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากราคาในตลาดเบนซินสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังมีปัญหาท่อส่งน้ำมันเบนซินรั่ว ขณะที่อุปทานในญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดลง แม้โรงกลั่นบางแห่งจะกลับมาจากการซ่อมบำรุงกะทันหัน แต่โรงกลั่นใหญ่ในญี่ปุ่นกำลังเริ่มเข้าสู่แผนการปิดซ่อมบำรุงวานนี้ไปจนสิ้นเดือน ต.ค.
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งยังขาดโอกาสในการส่งออกไปขายยังตลาดยุโรปด้วย อย่างไรก็ดี โรงกลั่นในแอฟริกาใต้ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงการปิดซ่อมบำรุงในเดือนนี้ อาจส่งแรงหนุนให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดได้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 42-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
โอกาสความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการประชุมในวันที่ 26 –28 กันยายนมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น หลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบียได้บรรลุข้อตกลงในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า การคงกำลังการผลิตในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นเนื่องจากสภาวะตลาดจะเริ่มสมดุลมากขึ้นในอนาคต
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อราคาต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขนส่งน้ำมันดิบกลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้ามีแนวโน้มสูงขึ้น
ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเข้าใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปริมาณแท่นขุดเจาะสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ก.ย. จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 7 แท่นมาอยู่ที่ 414 แท่น