- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 12 September 2016 23:08
- Hits: 7025
ราคาน้ำมันดิบลด หลังตลาดคาดสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์หน้าส่อเค้าปรับเพิ่มอีกครั้ง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังมีการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับสูงเช่นเดิม จากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นหลังจากปริมาณนำเข้าในสัปดาห์ก่อนหน้าเกิดความล่าช้าไปเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายจากพายุ Hermine ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของสหรัฐฯ ในแถบเท็กซัสและลุยเซียนา ซึ่งส่งผลทำให้การขนส่งน้ำมันดิบที่ชายฝั่งของสหรัฐฯ มีความยากลำบาก
- นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากค่าเงินสหรัฐฯ ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังตลาดมีการคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 20-21 ก.ย. 59 นี้
- เบเกอร์ ฮิวจ์ (Baker Hughes) เผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ย. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 แท่น สู่ระดับ 414 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 59 ทั้งนี้ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบมีแนวโน้มสูงขึ้นตามอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนับเป็นปัจจัยหลักที่ยังคงกดดันต่อราคาน้ำมัน
-/+ ตลาดยังคงจับตาการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย. 59 นี้ ที่ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงนโยบายการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างยังคงถกเถียงถึงความไม่แน่นอนของผลการประชุมดังกล่าว ซึ่งส่งทำให้เกิดความผันผวนด้านราคาในตลาดน้ำมันอย่างต่อเนื่อง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
โอกาสความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในการประชุมในวันที่ 26 –28 กันยายนมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น หลังรัสเซียและซาอุดิอาระเบียได้บรรลุข้อตกลงในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า การคงกำลังการผลิตในปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นเนื่องจากสภาวะตลาดจะเริ่มสมดุลมากขึ้นในอนาคต
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อราคาต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการขนส่งน้ำมันดิบกลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้ปริมาณการนำเข้ามีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ภาวะน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดคลี่คลายลง หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงมากมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเข้าใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปริมาณแท่นขุดเจาะสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ก.ย. จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 7 แท่นมาอยู่ที่ 414 แท่น
---------------------------------------