- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 30 August 2016 22:26
- Hits: 4660
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่าร้อยละ 1 จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดและค่าเงินสหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าร้อยละ 1 ก่อนหน้าการประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันคงคลังสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ในขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังน่าจะปรับตัวลดลงจากการที่ผู้ซื้อรายใหญ่ต้องทำการสำรองปริมาณน้ำมันเบนซินก่อนช่วงที่โรงกลั่นจะเข้าสู่ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ซึ่งอาจส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงได้
- นาย Khalid Al-Falih รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้ให้ความเห็นว่าการแทรกแซงราคาน้ำมันดิบในตลาดนั้นไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ถูกขับเคลื่อนโดยกลไกอุปสงค์อุปทานอยู่แล้ว ซึ่งเป็นผลให้ความคาดหวังต่อการประชุมเพื่อหารือเรื่องการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันที่จะเริ่มต้นในวันที่ 26 กันยายนนี้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น
- นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากมีความคาดหวังต่อการประชุมเฟดในวันศุกร์ที่ 2 กันยายนนี้ ว่านาง Janet Yellen อาจให้สัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังมีการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- กลุ่มติดอาวุธ Nigers Delta Avenger ได้ประกาศยุติการโจมตีท่อส่งน้ำมันของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่หลายแห่งในประเทศไนจีเรียหลังจากที่มีการโจมตีอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้คาดว่ากำลังการผลิตจากประเทศไนจีเรียน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
+ อย่างไรก็ดี มีการรายงานถึงพายุฤดูร้อนในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งมีความรุนแรงส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติจำนวนหนึ่งต้องหยุดกระบวนการผลิตลง โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจำนวนกว่า 170,000 บาร์เรลต่อวัน และก๊าซธรรมชาติที่ระดับ 190 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันได้หายไป คิดเป็นร้อยละ 11.5 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดในอ่าวเม็กซิโก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในภูมิภาคส่งผลให้อุปทานมีแนวโน้มลดลงในขณะที่อุปสงค์ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ยังมีการรายงานตัวเลขการส่งออกน้ำมันเบนซินจากประเทศจีนที่ลดลงราวร้อยละ 12
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังภายในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการที่ประเทศจีนยังคงเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่อุปสงค์ไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
อุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังคงส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน โดยสำนักงานสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 19 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 523.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ว่าจะปรับลดลง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบปรับลดกำลังการผลิตลง
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า หลังล่าสุดซาอุดิอาระเบีย มีความเห็นว่าสภาพตลาดปัจจุบันยังคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดหรือคงกำลังการผลิต เนื่องจากตลาดจะเริ่มสมดุลมากขึ้นจากอุปทานนอกกลุ่มโอเปกที่ลดลง
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงปรับเพิ่มปริมาณการขุด เจาะน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ส.ค. อยู่ที่ระดับ 406 แท่น คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 76 แท่นจากต้นเดือน ก.ค.