- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 26 August 2016 19:05
- Hits: 8415
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น เนื่องจากความกังวลว่าอุปทานอาจสะดุด หลังสหรัฐฯยิงตอบโต้อิหร่านในบริเวณอ่าวเปอร์เซีย
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับขึ้นประมาณร้อยละ 1 เนื่องจากเกิดความกังวลในตลาดจากความตึงเครียดทางการทหารระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน โดยกองกำลังทหารเรือสหรัฐฯ ได้มีการยิง 3 นัด หลังเรือเร็วของอิหร่านเข้ามาใกล้เรือสองลำของสหรัฐฯ ในบริเวณตอนเหนือของอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งในช่วงต้นสัปดาห์ได้มีการรายงานเหตุการณ์ว่าเรืออิหร่านหลายลำได้คุกคามเรือสหรัฐฯ ในบริเวณใกล้กับช่องแคบเฮอร์มุส ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสัญจรของเรือบรรทุกน้ำมันจำนวนมาก
+ สุนทรพจน์ของนางเยเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำปีที่จะมีขึ้นในวันนี้ที่เมืองแจ๊คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง อาจส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ซึ่งส่งแรงหนุนให้ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานรายสัปดาห์ สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ส.ค. ปรับลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ 261,000 ราย โดยนับเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ และสวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 265,000 ราย
- นายกกระทรวงพลังงาน ซาอุดิอาระเบีย ให้ความเห็นว่าการจำกัดปริมาณการผลิตอาจยังไม่มีความจำเป็น แม้ว่าอุปทานจะอยู่ในระดับสูง โดยอุปสงค์ที่มีอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ตลาดเข้าสู่ภาวะสมดุล ซึ่งทำให้แนวโน้มของผลการเจรจาระหว่างสมาชิกในกลุ่มโอเปกและกลุ่มประเทศนอกกลุ่มโอเปก เรื่องการคงกำลังการผลิต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย. มีความเป็นไปได้ต่ำ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากจากอุปสงค์ปรับตัวสูงขึ้น หลังโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียจะเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุงในเดือน ก.ย. นี้ ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินขนส่งทางเรือในญี่ปุ่นรายสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 8 หลังอุณหภูมิสูงขึ้นในฤดูร้อน และราคาขายปลีกที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่มีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงกดดันภาวะอุปทานล้นตลาด หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังรายสัปดาห์ในญี่ปุ่นปรับสูงขึ้นร้อยละ 7 จากสัปดาห์ก่อน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปีก่อนหน้า
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่่น่าจับตามอง
อุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังคงส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน โดยสำนักงานสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 19 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 523.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ว่าจะปรับลดลง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบปรับลดกำลังการผลิตลง
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงปรับเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบต่อเนื่อง โดยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 ส.ค. ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องกว่า 8 สัปดาห์ติดต่อกัน มาอยู่ที่ระดับ 406 แท่น คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 76 แท่นจากต้นเดือน ก.ค.
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า หลังล่าสุดซาอุดิอาระเบีย มีความเห็นว่าสภาพตลาดปัจจุบันยังคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดหรือคงกำลังการผลิต เนื่องจากตลาดจะเริ่มสมดุลมากขึ้นจากอุปทานนอกกลุ่มโอเปกที่ลดลง