- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 23 August 2016 14:55
- Hits: 2554
ราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูง หลังตลาดยังคงมีความหวังเรื่องการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก
บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ. ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 22 สิงหาคม 2559
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 44 – 49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 46 – 51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (22 - 26 ส.ค. 59)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยคาดว่าตลาดจะยังคงได้รับแรงหนุนจากข่าวความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก ในการหามาตรการในการสร้างเสถียรภาพให้กับราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้ นอกจากนี้ราคายังได้รับแรงสนับสนุนจากภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่มีทิศทางที่ดีขึ้น สะท้อนจากปริมาณน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ลดลง อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
ข่าวการหารือระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกและนอกกลุ่มโอเปก คาดว่าจะยังคงส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย แสดงท่าทีเห็นด้วยกับการร่วมมือกันรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบ รัสเซียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ประกาศพร้อมที่จะร่วมมือกับกลุ่มโอเปกเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตามองท่าทีของยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายอื่นในกลุ่มโอเปกอย่าง อิหร่านและอิรัก ต่อไป
หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค. โดยรายงานแสดงให้เห็นถึงความกังวลของเจ้าหน้าที่เฟดต่อนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และต้องการดูข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ก่อนที่จะดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากยังไม่แน่ใจกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง และส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมันดิบ
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาดคลี่คลายลงเล็กน้อย หลังสำนักงานสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 12 ส.ค. ปรับลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ มาอยู่ที่ระดับ 521.1 ล้านบาร์เรล หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมที่รัฐลุยเซียนา อาจส่งผลให้โรงกลั่นบางแห่งอาจจำเป็นต้องลดกำลังการกลั่นลงและส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบ
ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน หลังราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นใกล้ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในช่วงที่ผ่านมา Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 12 ส.ค. จำนวนแท่นขุดเจาะเพิ่มขึ้น 15 แท่น สู่ระดับ 396 แท่น ซึ่งคิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 66 แท่นจากต้นเดือน ก.ค. โดยกว่า 2 ใน 3 ของปริมาณแท่นขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นเป็นการเพิ่มขึ้นในแหล่งผลิตที่มีต้นทุนต่ำอย่าง Permian
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซน ดัชนีภาคการบริการยูโรโซน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (15 - 19 ส.ค. 59)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 48.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.91 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 50.88 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 47 เหรียญสหรัฐฯ โดยราคาได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากข่าวการประชุมระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกในเดือนหน้าที่ประเทศแอลจีเรีย ซึ่งสมาชิกในกลุ่มโอเปกทั้ง 14 ประเทศและรัสเซียจะเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เพื่อทำการหารือเรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ รวมไปถึงมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันดิบที่ปรับลดลง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น และน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจาก ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบต่อเนื่องกว่า 7 สัปดาห์ติดต่อกัน หลังราคาปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้ระดับต้นทุนการผลิต