- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 18 August 2016 23:30
- Hits: 4331
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินปรับลดลง
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังได้รับแรงหนุนจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 12 ส.ค. ที่ปรับลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 5 แสนบาร์เรล นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง
+ ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลงและช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันดิบ หลังตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเร็วนี้ หลังยังคงกังวลกับสภาวะเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ประกอบกับความเสี่ยงของอังกฤษที่จะออกจากสหภาพยุโร (Brexit)
- อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดัน หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบีย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ที่ 10.8 - 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค. เพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนและเพื่อคงปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบให้อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นดังกล่าวสร้าวความก้งวลต่อการเจรจาของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่จะทำการพูดคุยเรื่องสภาวะตลาดน้ำมัน รวมถึงมาตรการเพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับสูง
- นอกจากนี้ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องสร้างความกังวลต่อการหามาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพต่อราคาน้ำมันดิบ โดยบริษัทน้ำมันแห่งชาติของอิหร่านกล่าวว่าปัจจุบันอิหร่านผลิตน้ำมันดิบที่อยู่ 3.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปริมาณการผลิตในเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 3.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่การส่งออกยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากเอเชียเหนือ โดยเฉพาะจีนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อจากปากีสถานและมาเลเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งน้ำมันดีเซลของจีนที่อยู่ในระดับสูง เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศหดตัวลง ประกอบกับ โอกาสในการส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังทวีปยุโรปปรับลดลง ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดีเซลส่วนเกินยังคงอยู่ในภูมิภาค
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมหารือระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังมีรายงานว่าเวเนซุเอลา เอกวาดอว์ และกาต้าร์ เสนอให้จัดการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเพื่อหารือเรื่องการรักษาเสถียรภาพราคา ซึ่งตลาดได้รับแรงหนุนต่อเนื่องหลังรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าในการประชุมวันที่ 26 – 28 ก.ย. นี้อาจมีการหารือเรื่องมาตรการในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน หากระดับราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำเกินไป
ภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน จากรายงานของ Baker Hughes ณ วันที่ 12 ส.ค. ที่รายงานว่าจำนวนหลุมขุดเจาะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 396 แท่น คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 66 แท่นจากต้นเดือน ก.ค.