- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 17 August 2016 23:52
- Hits: 7519
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดใหม่เป็นวันที่ 2 หลังแผนการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันมีแนวโน้มดีขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 2 จากวันก่อนหน้า สู่จุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันหลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีความพยายามที่จะกลับมาเจรจากับประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก เพื่อร่วมกันหารือในข้อตกลงเกี่ยวกับการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมัน รวมถึงมาตรการที่จำเป็นในการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบไว้
+ สถานการณ์ความวุ่นวายในไนจีเรียยังคงเลวร้ายลงหลังจากที่กลุ่มติดอาวุธ "ไนเจอร์ เดลตา อเวนเจอร์ส" ยังคงเดินหน้าทำลายท่อส่งน้ำมันดิบของบริษัทผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่เช่น Shell Chevron และ ENI แม้ว่าทางรัฐบาลไนจีเรียจะได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับทางกลุ่มติดอาวุธในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดของไนจีเรียตกลงสู่ระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปี
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนจากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์หลังจากที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดในรัฐซานฟรานซิสโก ได้แสดงความกังวลต่อนโยบายแนวทางการปรับขึ้นอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวน และอัตราดอกเบี้ยต่ำ
+/- อย่างไรก็ดี แม้ว่าสถาบันปิโตรเลียมของอเมริกา (API) จะรายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวลดลงกว่า 1 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้าสู่ระดับ 519.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนกับที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 5 แสนบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันดิบยังคงเผชิญแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นราว 2.2 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อนหน้า สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลดลงประมาณ 1.6 ล้านบาร์เรล
น้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงสนับสนุนของแนวโน้มอุปทานที่น่าจะลดลงในอนาคตจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันภายในภูมิภาค
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานน้ำมันดีเซลที่ยังคงล้นตลาดอยู่ในภูมิภาค นอกจากนี้ การนำเข้าน้ำมันดีเซลจากประเทศอินโดนีเซียมีปริมาณลดลงร้อยละ 40.24 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
โอเปกที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังมีรายงานว่าเวเนซุเอลา เอกวาดอว์ และกาต้าร์ เสนอให้จัดการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกเพื่อหารือเรื่องการรักษาเสถียรภาพราคา ซึ่งตลาดได้รับแรงหนุนต่อเนื่องหลังรัฐมนตรีพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าในการประชุมวันที่ 26 – 28 ก.ย. นี้อาจมีการหารือเรื่องมาตรการในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน หากระดับราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับต่ำเกินไป
ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังไม่คลี่คลายและมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ระดับ 523.6 ล้านบาร์เรล
ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน จากรายงานของ Baker Hughes ณ วันที่ 12 ส.ค. ที่รายงานว่าจำนวนหลุมขุดเจาะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 396 แท่น คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 66 แท่นจากต้นเดือน ก.ค.