WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

oil6 1ไทยออยล์ คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน 15-19 ส.ค.59 และสรุปสถานการณ์ฯ 8-12 ส.ค. 59

 

 แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (15 - 19 ส.ค. 59)

  ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะถูกกดดันจากภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดที่ยังไม่คลี่คลาย สะท้อนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มปรับลดกำลังการผลิตลงในช่วงการปิดซ่อมบำรุง ขณะที่การผลิตจากกลุ่มโอเปกเองที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบอาจยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการประชุมเพื่อหารือเรื่องการคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

  ภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังไม่คลี่คลายและมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน มาอยู่ที่ระดับ 523.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของช่วงเวลานี้ หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ทยอยปรับลดกำลังการผลิตลงก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุง ขณะที่อุปทานน้ำมันสำเร็จรูปเองก็ยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน

  การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังผู้ผลิตคงกลยุทธ์ในการรักษาส่วนแบ่งการตลาด สะท้อนจากการผลิตของซาอุดิอาระเบียเดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 10.67 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่การผลิตของลิเบียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียเจรจาขอเปิดท่าส่งออกน้ำดิบสำคัญของประเทศ Es Sider และ Ras Lanuf และ Zueitina กับหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศสำเร็จแล้ว อย่างไรก็ดี ความขัดแย้งทางกลุ่มทหารในบริเวณดังกล่าวอาจเป็นอุปสรรคในการกลับมาเปิดใช้ท่าเรือ

  ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน หลังราคาน้ำมันดิบปรับสูงขึ้นใกล้ระดับต้นทุนการผลิตที่ราว 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในช่วงที่ผ่านมา สังเกตได้จากรายงานจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ล่าสุด ที่รายงานโดย Baker Hughes ณ วันที่ 12 ส.ค. ที่รายงานว่าจำนวนหลุมขุดเจาะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 396 หลุม คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่า 66 แท่นจากต้นเดือน ก.ค. อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของแท่นขุดเจาะมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับลดลง

  ข่าวการประชุมหารือระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ อาจส่งแรงหนุนต่อราคาน้ำมันในระยะนี้ หลังมีรายงานว่าเวเนซุเอลา เอกวาดอว์ และกาต้าร์ เสนอให้จัดการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกรวมทั้งสิ้น 14 ประเทศ เพื่อหารือเรื่องการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ซึ่งล่าสุดแม้จะยังไม่มีข้อตกลงใดๆ แต่มีความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีของเวเนซุเอลาและซาอุดิอาระเบียแล้ว และจะหารือกับรัสเซีย อิหร่าน และกาต้าร์ต่อไป โดยกลุ่มโอเปกจะมีการประชุมภายในอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26 – 28 ก.ย. นี้ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ราคาน้ำมัน

    ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้ผลิตยูโรโซน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (8 - 12 ส.ค. 59)

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 44.49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.70 เหรียญสหรัฐฯ ปิดที่ 46.97 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปิดเฉลี่ยอยู่ที่ 41 เหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน รวมถึงความพยายามของกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ในการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบมีแนวโน้มล้มเหลว ซ้ำรอยกับการเจรจาในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบยังมีแรงหนุนจากการที่นักลงทุนและกองทุนยังคงเข้าทำการซื้อกลับสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า (short-covering) อย่างต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงใกล้ 40 เหรียญสหรัฐฯ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!