ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่งและกำลังการผลิตน้ำมันดิบซาอุดิฯ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

Details: Category: พลังงาน; Published: Thursday, 11 August 2016 17:15; Hits: 1773

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่งและกำลังการผลิตน้ำมันดิบซาอุดิฯ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

(-) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 5 ส.ค. 59 ปรับเพิ่มขึ้นราว 1.1 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลง 1ล้านบาร์เรล โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮม่า ปรับเพิ่มราว 1.163ล้านบาร์เรลเช่นกัน

(-) ตลาดน้ำมันดิบยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นหลังซาอุดิอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ในกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC)รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ 10.67 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ค. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2558 เนื่องจากซาอุดิอาระเบียต้องการที่จะผลิตน้ำมันดิบเพื่อตอบสนองกับอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงหน้าร้อนโดยเฉพาะนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงาน

(-) ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปกำลังเผชิญกับภาวะอุปทานล้นตลาดเช่นกับตลาดน้ำมันดิบ เนื่องจากกำลังการผลิตมีมากกว่าความต้องการใช้ ส่งผลให้ตลาดถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง และโรงกลั่นน้ำมันที่มีต้นทุนในการผลิตสูงอย่างในทวีปยุโรปต้องเริ่มลดกำลังการผลิตของตนลงเพื่อให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ความต้องการใช้น้ำมับดิบอ่อนตัวลงตามไปด้วย

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเนื่องจากแรงหนุนของอุปสงค์ที่ดีในช่วงหน้าร้อนของประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี อุปสงค์ของจีนยังคงอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มิ.ย. หลังประเทศเข้าสู่ฤดูฝน ประกอบกับอุปทานที่ล้นตลาดในประเทศส่งผลให้การซื้อเบาบางเนื่องจากผู้ซื้อคาดว่าราคามีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงเท่ากับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจาก อุปทานล้นตลาดหลังเอเชียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดีเซลไปขายยังภูมิภาคตะวันตกซึ่งมีอุปสงค์เบาบาง ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในประเทศสิงคโปร์ปรับสูงขึ้นราวร้อยละ 17เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 40-45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 41-46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังไม่คลี่คลายหลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ในเดือน ก.ค. ที่ระดับ 33.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังอิรักและไนจีเรียสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออก และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังล่าสุดบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียได้เจรจากับหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศในการเจรจาเพื่อเปิดท่าส่งออกน้ำดิบสาคัญของประเทศ Es Sider และ Ras Lanuf และ Zueitina ในเร็วนี้

ภาวะราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ วันที่ 5 ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6ติดต่อกัน สู่ระดับ 381 แท่น