- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Saturday, 06 August 2016 19:33
- Hits: 8105
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนและกองทุนทำการซื้อกลับและอุปทานน้ำมันดิบคงคลังมีแนวโน้มลดลง
+ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 3 จากวันก่อนหน้า สาเหตุเนื่องจากนักลงทุนและกองทุนทำการซื้อกลับสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า (short-covering) หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่องจนใกล้ระดับ 40 เหรียญสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา จากความกังวลปัญหาอุปทานน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปล้นตลาด
+ อุปทานน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลัง Genscape รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกลาโฮมา สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค. ปรับลดลง 89,000 บาร์เรล ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 64.1 ล้านบาร์เรล
+ ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง BP กลับมาดำเนินการผลิตโรงกลั่น Whiting ที่สหรัฐฯ ซึ่งมีกำลังการผลิต 413,500 บาร์เรลต่อวันแล้ว หลังในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเผชิญกับปัญหาการผลิต ส่งผลให้ต้องลดกำลังการผลิตลงไปกว่าร้อยละ 20 ถึงร้อยละ 25
- อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงเผชิญแรงกดดันจาก ปริมาณการผลิตของอิรักที่อยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่อง ท่อขนส่งในช่วงที่ผ่านมา อิรักคาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับประมาณ 4.63 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งระดับดังกล่าวเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. 59 ที่ผลิตกว่า 4.77 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังทั่วโลกที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ โดยข้อมูลล่าสุดปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี และปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับลดลง 0.8 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอินโดนีเซียที่โรงกลั่นมีปัญหาการผลิตหน่วยผลิตน้ำมันเบนซิน ประกอบกับ ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 15.06 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบเล็กน้อย เนื่องจากยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากภาวะอุปทานในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ในสัปดาห์ก่อนหน้า ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ที่ระดับ 15.44 ล้านบาร์เรล
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 39-44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 41-46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดยังไม่คลี่คลาย หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบประวัติการณ์ในเดือน ก.ค. ที่ระดับ 33.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังอิรักและไนจีเรียสามารถเพิ่มปริมาณการส่งออก และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังล่าสุดบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียได้เจรจากับหน่วยรักษาความปลอดภัยของประเทศในการเจรจาเพื่อเปิดท่าส่งออกน้ำดิบสำคัญของประเทศ Es Sider และ Ras Lanuf และ Zueitina ในเร็วนี้
ภาวะราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เพิ่มปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุด Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ณ วันที่ 29 ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ห้าติดต่อกัน สู่ระดับ 374 แท่น