- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 30 June 2016 23:29
- Hits: 4917
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯลดลงและตลาดคลายความกังวลเรื่อง Brexit
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปรับเพิ่มราว 4 เปอร์เซ็นต์ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 24 มิ.ย. 59 ปรับลดลงกว่า 4.1 ล้านบาร์เรลมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ได้ปรับลดลงเป็นสัปดาห์ 6 ติดต่อกัน
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนที่คลายกังวลประเด็นการลงประชามติให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางชั้นนำของโลกจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับผลกระทบจากปัจจัย Brexit โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดพร้อมที่จะอัดฉีดดอลลาร์เพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาด หลังจากอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป
+ รวมไปถึงสถานการณ์ของนอร์เวย์ที่สหภาพแรงงานราว 750 คนยังประกาศเดินหน้าการประท้วงและหยุดการผลิต ประกอบกับโรงกลั่นที่เวเนซุเอลายังคงลดกำลังการผลิตตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเนื่องจากปัญหาทางด้านอุปกรณ์ ส่งผลให้ตลาดยังคงกังวลต่อปริมาณน้ำมันดิบที่หายไป
+ ตลาดยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับดี จากตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพ.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.4% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานล้นตลาดจากจีนและอินเดียยังคงกดดันตลาดน้ำมันเบนซินอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการน้ำมันเบนซินจากสหรัฐฯ ในช่วงฤดูท่องเที่ยว
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการน้ำมันดีเซลในเอเชียยังคงอยู่ในระดับดี และปริมาณการส่งออกจากเอเชียเหนือและอินเดียลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดถูกกดดันจากความต้องการน้ำมันดีเซลลดลงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงฤดูมรสุม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประท้วงของสหภาพแรงงานของนอร์เวย์ ที่ไม่พอใจเรื่องการปรับค่าแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยหากไม่สามารถเจรจาประเด็นดังกล่าวได้ภายในวันศุกร์นี้ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะหายไปทั้งสิ้นประมาณ 285,000 บาร์เรลต่อวัน
จับตาสถานการณ์ผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรีย หลังกำลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี มาอยู่ที่ระดับประมาณ 1.8 - 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม การเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ยังคงไม่ได้ข้อสรุป ส่งผลให้ปริมาณการผลิตยังคงมีแนวโน้มปรับลดลงหากมีสถานการณ์ความรุงแรงเกิดขึนอีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นใกล้ระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อาจโน้มน้าวให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหลุมน้ำมันที่ขุดไว้แล้ว เนื่องจากผู้ผลิตบางรายเริ่มคุ้มทุนที่จะกลับมาดำเนินการผลิตใหม่