- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 28 June 2016 15:11
- Hits: 1505
ราคาน้ำมันดิบปรับลดต่อ หลังตลาดยังคงความกังวลต่อการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังตลาดยังคงความกังวลต่อผลกระทบของการลงประชามติให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป(Brexit) ขณะที่ผลการลงประชามติดังกล่าว กดดันให้นักลงทุนเทขายเงินปอนด์สเตอร์ลิงและสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อโยกย้ายเงินลงทุนไปซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง และถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง
- นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) มีการคาดการณ์ว่า การลงประชามติดังกล่าวอาจส่งผลให้เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรชะลอตัวลงในอัตราร้อยละ 2 และทำให้ความต้องการใช้น้ำมันของสหราชอาณาจักรปรับลดลงร้อยละ 1 หรือคิดเป็นสัดส่วนของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบโลกที่ลดลงราวร้อยละ 0.016
+ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในกรอบที่จำกัด หลัง Genscape บริษัทที่ปรึกษาด้านข้อมูลด้านพลังงานในสหรัฐฯ ได้รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮม่า ปรับตัวลดลงราว 1.3 ล้านบาร์เรล ประกอบกับปัจจัยหนุนด้านปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ที่มีการคากการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
+ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ (PMI Services Flash) ประจำเดือน มิ.ย. 59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.3 จุด จากระดับ 51.2 จุด ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ดัชนีที่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 จุด นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงตลาดภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ยังคงขยายตัว
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากแรงหนุนของอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศเกาหลีใต้และจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันเบนซินโดยรวมยังคงถูกกดดันจากปริมาณอุปทานที่ล้นตลาด และความกังวลต่อสถานการณ์การแยกตัวของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรป
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานที่ปรับลดลงในประเทศใต้หวันและเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกจากประเทศจีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปริมาณอุปสงค์ของอิโดนีเซียที่ชะลอตัวลงในช่วงฤดูมรสุม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ความไม่สงบไนจีเรียยังไม่คลี่คลาย และมีแนวโน้มที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียจะคงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ได้ก่อเหตุโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันสำคัญทางตอนใต้ของไนจีเรีย ส่งผลให้กำลังการผลิตในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีที่ราว 1.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อาจโน้มน้าวให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ เริ่มกลับมาขุดเจาะและผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหลุมน้ำมันที่ขุดไว้แล้ว (Drilled but Uncompleted หรือ DUC ) เนื่องจากผู้ผลิตบางรายเริ่มคุ้มทุนที่จะกลับมาดำเนินการผลิตใหม่