- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 22 June 2016 23:41
- Hits: 4353
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากแรงเทขายทำกำไร หลังปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
-ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงราว 2% จากแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงจับตาเรื่องการลงประชามติของอังกฤษจากการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ ส่งผลให้นักลงทุนยังคงซื้อขายอย่างระมัดระวัง
- รัฐบาลไนจีเรียและกลุ่มก่อการร้าย Niger Delta Avengers (NDA) สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือน หลังเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ Niger Delta ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันที่สำคัญของประเทศ ทำให้แหล่งผลิตและท่อขนส่งน้ำมันดิบเสียหาย และส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบในไนจีเรียลดลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี
+ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบอาจตึงตัว หลังเศรษฐกิจในประเทศเวเนซุเอลาซึ่งเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำมันดิบสำรองสูงสุดของโลกถดถอย โดยล่าสุด ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. ปรับลดลง 2.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นการปรับลดลงราว 5% จากเดือนก่อนหน้า
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ณ วันที่ 17 มิ.ย. 59 ลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 531.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า ที่ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
- อย่างไรก็ดี Matt Smith ซึ่งเป็นผู้ติดตามการนำเข้าน้ำมันดิบบนน่านน้ำของสหรัฐฯ มองว่า ตัวเลขสต็อกจาก สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ในรอบนี้ไม่สามารถเชื่อถือได้ เนื่องจากโรงกลั่นในสหรัฐฯยังคงเดินหน้าดำเนินการผลิตอย่างเต็มกำลัง ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังเผยว่า จากปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบในสัปดาห์ก่อนหน้าที่เขาคาดไว้ว่าจะมีเพียง 5 ล้านบาร์เรล ไม่สามารถทำให้สต็อกน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นได้มากเท่าที่ API รายงาน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดน้ำมันเบนซินได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการในช่วงเทศกาลถือศีลอด อย่างไรก็ดีอุปทานในภูมิภาคและในสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการซื้อน้ำมันดีเซลสำหรับการปิดสัญญาขายน้ำมันลดลง ประกอบกับแนวโน้มอุปทานที่จะปรับเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นในภูมิภาคกลับมาดำเนินการผลิตหลังปิดซ่อมบำรุง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการลงประชามติของอังกฤษที่จะแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 23 มิ.ย นี้ ซึ่งสร้างความกังวลต่อตลาด เนื่องจากหากอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป อาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจยุโรปและอังกฤษชะลอตัวลง และอาจจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
สถานการณ์ความไม่สงบไนจีเรียยังคงยืดเยื้อ หลังกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ยังเดินหน้าก่อเหตุโจมตีท่อขนส่งน้ำมันของบริษัทน้ำมันแห่งชาติของไนจีเรีย (NNPC) และของบริษัท Eni บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของอิตาลี ส่งผลให้ปริมาณกำลังการผลิตยังคงปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีที่ราว 1.5 – 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 10 มิ.ย. ปรับลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล เป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน สู่ระดับ 531.5 ล้านบาร์เรล