WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL10ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 วัน หลังตลาดคลายความกังวลว่าอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป

  +ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4% เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าและตลาดคลายความกังวลจาก Brexit ส่งผลให้นักลงทุนต่างหันมาลงทุนในตลาดน้ำมันดิบที่มีความเสี่ยงสูงกว่า

  + ตลาดคลายความกังวลว่าอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป หลังผลสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษเรื่องการลงประชามติ Brexit จากสองสำนัก (ยูกอฟ (YouGov) และ หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ เดอะ เมล์) ล่าสุดซึ่งมีขึ้นหลังการเสียชีวิตของ โจ ค็อกซ์ เผยให้เห็นว่า ฝ่ายสนับสนุนให้สหราชอาณาจักรยังคงเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไป มีคะแนนนำอยู่เล็กน้อย โดยสาเหตุที่ทำให้คะแนนของฝ่ายสนับสนุนปรับเพิ่มขึ้นนั้น ยูกอฟเผยว่าเป็นเพราะความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ มากกว่าจะเป็นเพราะเหตุการณ์การเสียชีวิตของโจ ค็อกซ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติสังกัดพรรคแรงงานของอังกฤษ

  -/+ นายจูเลียน เจสซอป นักวิเคราะห์ของแคปิตัล อีโคโนมิคส์ คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะยังคมีแนวโน้มงผันผวนจนถึงวันพฤหัสบดีและศุกร์หน้า จากปัจจัยการลงประชามติของอังกฤษเกี่ยวกับ Brexit อีกทั้งยังคาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจจะทรุดตัวถึงระดับ 40 ดอลลาร์ ถ้าหากชาวอังกฤษตัดสินใจเลือกที่จะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป

  - อย่างไรก็ดี บริษัท เบเกอร์ ฮิวจ์ส รายงานตัวเลขหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ วันที่ 17 มิถุนายน  59  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 หลุม มาอยู่ที่ 337 หลุม ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสามอาทิตย์ติดต่อกัน โดยนักวิเคราะห์มีความเห็นว่าราคาน้ำมันที่มากกว่าระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้ผลิตกลับมาขุดเจาะน้ำมันดิบเพิ่มเติมอีกครั้ง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากความต้องการจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ในอินเดียและเวียดนามที่ชะลอตัวลงในช่วงฤดูมรสุมประจำไตรมาส 3 ประกอบกับอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากมาเลเซียและอินเดีย

 

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

   ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

   ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  จับตาการลงประชามติของอังกฤษที่จะแยกตัวออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 23 มิ.ย นี้ ซึ่งสร้างความกังวลต่อตลาด เนื่องจากหากอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป อาจส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจยุโรปและอังกฤษชะลอตัวลง และอาจจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

  สถานการณ์ความไม่สงบไนจีเรียยังคงยืดเยื้อ หลังกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์  ยังเดินหน้าก่อเหตุโจมตีท่อขนส่งน้ำมันของบริษัทน้ำมันแห่งชาติของไนจีเรีย (NNPC) และของบริษัท Eni บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของอิตาลี ส่งผลให้ปริมาณกำลังการผลิตยังคงปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีที่ราว 1.5 – 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

  ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 10 มิ.ย. ปรับลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล เป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน สู่ระดับ 531.5 ล้านบาร์เรล

 

 

  

loading...

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!