- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Tuesday, 14 June 2016 18:24
- Hits: 2081
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น และความกังวลต่อเศรษฐกิจในยุโรปและเอเชีย
-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากความกังวลที่สหราชอาณาจักรจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยกำหนดการทำประชามติจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ ประกอบกับความกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะปัญหาด้านอุตสาหกรรมที่มีการผลิตมากเกินความต้องการของตลาดและภาระหนี้ นอกจากนี้ตลาดยังคงกังวลต่อความไม่แน่นอนที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- รวมถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับขึ้นมาทั้งสิ้น 12 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 328 แท่น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลต่อปริมาณการผลิตที่ปรับขึ้น อย่างไรก็ดีจำนวนแท่นขุดเจาะในระดับปัจจุบันยังน้อยกว่าในช่วงปีก่อนมากที่มีจำนวนแท่นจุดเจาะ 635 แท่น
+ รายงานปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปก ในเดือนพ.ค. ลดลงประมาณ 100,000 บาร์เรลต่อวัน สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศไนจีเรีย โดยทางกลุ่มโอเปกคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบจะมีความสมดุลเร็วขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หลังอุปทานน้ำมันดิบจากประเทศในจีเรียและแคนาดาลดลง ซึ่งหากกำลังการผลิตน้ำมันดิบยังอยู่ที่ระดับเช่นเดียวกับในเดือนพ.ค. ทางกลุ่มโอเปกคาดว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาดได้ หลังมองว่าอุปสงค์ตามฤดูกาลจะอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลให้ในครึ่งหลังของปี 59 นี้ ปริมาณอุปทานจะน้อยกว่าอุปสงค์ประมาณ 160,000 บาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากยังได้รับแรงกดดันจากสภาวะอุปทานล้นตลาดในภูมิภาค โดยเฉพาะโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาคเอเชียเหนือได้เร่งกำลังการผลิตน้ำมันเบนซินหลังส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังประเทศอินเดียได้กลับมาส่งออกน้ำมันดีเซลเข้ามาในภูมิภาค อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนาม
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
สถานการณ์ความไม่สงบไนจีเรียยังคงยืดเยื้อ หลังกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ ยังเดินหน้าโจมตีท่อขนส่งและแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำเป็นระยะเวลานาน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง หลังจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.และเดือน ก.ค. ออกไปก่อน โดยตลาดซื้อขายล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐฯ (Fed Funds Futures) มองว่าโอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ค. เหลือเพียง 18%
ปริมาณน้ำมันดิบในคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 3 มิ.ย. ปรับลดลงกว่า 3.2 ล้านบาร์เรล เป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกัน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สู่ระดับ 532.5 ล้านบาร์เรล