- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 08 June 2016 22:47
- Hits: 3039
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงสุดในรอบปี 2016 หลังคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะลดลง และความกังวลต่ออุปทานในไนจีเรีย
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 เปอร์เซนต์และเป็นระดับสูงสุดในรอบปี 2016 เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 มิ.ย. จะปรับตัวลดลงราว 2.7 ล้านบาร์เรล จากระดับ 535.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน เช่นเดียวกันกับ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ที่รายงานว่าน้ำมันดิบคงคลังจะลดลงราว 3.6 ล้านบาร์เรล
+ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศไนจีเรีย หลังจากถูกกลุ่มก่อการร้ายไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ส โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของประเทศลดลงกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับการผลิตที่ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี อย่างไรก็ตามรัฐบาลของไนจีเรียมีความประสงค์ที่จะทำการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ
+ นักวิเคราะห์จากรอยเตอร์รายงานว่าปริมาณน้ำมันเข้าสู่ภาวะสมดุล หลังจากประเทศสหรัฐฯ อินเดีย และเม็กซิโกมีการใช้น้ำมันเบนซินเพิ่มมากขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ระดับการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน เช่นเดียวกับสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่คาดการณ์ว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจะลดลงในช่วงปีนี้ราว 830,000- 8,600,000 บาร์เรลต่อวัน และ ในปี 2017 จะลดลงราว 410,000- 8,190,000 บาร์เรลต่อวัน
+/- โรงกลั่นน้ำมันในฝรั่งเศสยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้จนถึงวันศุกร์นี้ หลังจากที่กลุ่มสหภาพแรงงานของโรงกลั่น Donges (220,000 บาร์เรลต่อวัน) ปฏิเสธที่จะกลับมาทำงาน อย่างไรก็ตามโรงกลั่น Feyzin ขนาดกำลังการผลิต 117,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ระหว่างการเตรียมการกลับมาผลิตอีกครั้ง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปรายใหญ่ของภูมิภาคมีอุปสงค์การนำเข้าน้ำมันเบนซินที่ลดลง อีกทั้งปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในภูมิภาคเอเชียเหนืออยู่ในระดับสูงส่งผลให้ความต้องการยังทรงตัว
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากผู้ผลิตในประเทศอินเดียหลังจากโรงกลั่นเริ่มกลับมาทำการผลิตอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีอุปสงค์จากประเทศเวียดนามและภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกที่เป็นปัจจัยสนับสนุนราคา
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญฯ สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ หลังในสัปดาห์ล่าสุด Baker Huges รานงานจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ หลังราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นใกล้ระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ผู้ผลิตเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้ง
การผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปก หลังในการประชุมโอเปกล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. กลุ่มโอเปกยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นเรื่องเพดานการผลิตน้ำมันดิบ เนื่องจากอิหร่านต้องการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้กลับไปอยู่ระดับเดิมก่อนที่จะถูกคว่ำบาตร ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียส่งสัญญาณกำลังการผลิตจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากในเร็วนี้
ติดตามสถานการณ์ในประเทศไนจีเรีย หลังกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ส ยังคงเดินหน้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการใช้กองกำลังทหารโจมตีทั้งทางน้ำและทางอากาศสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบอย่างรุนแรง ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบล่าสุดปรับลดลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน