- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 01 June 2016 23:17
- Hits: 3896
ราคาน้ำมันดิบลดลงจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและตลาดหุ้นสหรัฐ
+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กปรับลดลงเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเทียบเงินสกุลอื่นๆจากตัวเลขรายจ่ายในการบริโภคของบุคคลสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย.ปรับสูงขึ้นจาก 0.2% เป็น 1.0% มากที่สุดในรอบเกือบ 6 ปี เป็นผลมาจากยอดซื้อสินค้าราคาแพงและรถยนต์เพิ่มขึ้น และตลาดหุ้นวอลล์สตรีทอ่อนแรงลง ทำให้ตลาดมีความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด น่าจะทำการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในเร็วๆนี้ ตอบรับต่อสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
- นอกจากนั้น นักลงทุนยังจับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่จะประกาศโดยสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ(API) ในวันนี้ และ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ โดยผลสำรวจจากรอยเตอร์คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังน่าจะปรับลดลงราว 2.7 ล้านบาร์ลเรล
-/+ การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 มิ.ย. 59 ณ กรุงเวียนนา ไม่ทำให้ตลาดมีความกังวลต่อปริมาณน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนมากคาดว่าการประชุมไม่น่าจะบรรลุข้อตกลงใดๆ ในการจำกัดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
+ อย่างไรก็ดีสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังราคาน้ำมันดิบ ร่วงลงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ราคายังดีดตัวขึ้น ตอบรับการเริ่มต้นของช่วงฤดูขับขี่รถยนต์ในสหรัฐฯ
+ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมากลุ่มยูโรโซนยังคงอยู่ในภาวะเงินฝืด โดยดัชนีราคาผู้บริโภคที่ลดลง 0.1% ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 อย่างไรก็ดี เงินเฟ้ออยู่ในแดนบวกเมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ 0.2% ทั้งนี้ ข้อมูลเงินเฟ้อจะถูกเปิดเผยก่อนที่ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปจะร่วมประชุมกันในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางน้ำมันดิบดูไบ จากโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่นที่จะกลับมาดำเนินการได้ ส่งผลต่อความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ดี อุปสงค์ยังได้รับการสนับสนุนจากประเทศอินโดนีเชียเพื่อทำการเก็บสำรองก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูถือศีลอดในเดือน มิ.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้แรงหนุนจากอุปทานที่ลดลงในภูมิภาค จากโรงกลั่นที่ปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาลและอุปสงค์เพิ่มเติมจากภาคการเกษตรในประเทศออสเตรเลีย
ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมโอเปก ในวันที่ 2 มิ.ย. นี้ ว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถตกลงเรื่องการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบได้หรือไม่ หลังก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ผลิตไม่สามารถตกลงเรื่องการตรึงปริมาณการผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ผลิตน้ำมันดิบรายสำคัญในกลุ่มโอเปกยังไม่แสดงท่าทีว่าจะร่วมมือในการรักษาเสถียรภาพของตลาด เนื่องจากยังคงต้องการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด
จับตาการผลิตน้ำมันดิบของประเทศไนจีเรีย หลังกลุ่มติดอาวุธ ไนเจอร์ เดลต้า อเวนเจอร์ส ยังคงเดินหน้าจู่โจมหน่วยผลิตกระแสไฟฟ้าของแท่นขุดเจาะ ส่งผลให้ล่าสุดปริมาณผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ล่าสุดมีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) วันที่ 14-15 มิ.ย. นี้ หากเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้และอัตราเงินเฟ้อเริ่มฟื้นตัวขึ้น