- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 13 May 2016 18:59
- Hits: 5368
ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นจากการคาดการณ์อุปทานโลกที่ลดลงและความกังวลจากการโจมตีแหล่งน้ำมันดิบที่ไนจีเรีย
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 ขึ้นมาแตะระดับที่สูงสุดในรอบ 6 เดือนท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง หลังนักลงทุนได้ให้น้ำหนักกับการคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบโลกส่วนเกินที่จะปรับตัวลดลง โดยก่อนหน้านี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ได้คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมไปถึงปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐที่ลดลง 4.1 แสนบาร์เรลต่อวัน
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนจากความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบในไนจีเรีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของทวีปแอฟริกา หลังล่าสุดเกิดเหตุความเสียหายกับท่อขนส่งน้ำมันดิบในประเทศ ส่งผลทำให้อุปทานน้ำมันดิบ Qua Iboe ปรับตัวลดลงทันที หลังจากก่อนหน้านี้อุปทานน้ำมันดิบในประเทศไนจีเรียได้ปรับตัวลดลงประมาณ 400,000 บาร์เรลต่อวันจากการเหตุการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ
+ มากไปกว่านั้น สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงในแคนาดา ไนจีเรีย และลิเบีย จะส่งผลทำให้การผลิตจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกลดลงเพิ่มขึ้นอีก 90,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้คาดการณ์ว่าจะลดลง 710,000 บาร์เรลต่อวัน ในขณะที่อุปสงค์น้ำมันดิบในปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจาก Genscape ได้รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบเมืองคุชชิ่ง โอคลาโฮม่า พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 548,923 บาร์เรลในช่วงสองวันแรกของสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณอุปทานในภูมิภาคปรับตัวลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในภูมิภาค นอกจากนี้ราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อยหลังอุปทานในภูมิภาคปรับตัวลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในประเทศเกาหลีใต้และไต้หวัน นอกจากนี้ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงสนับสนุนจากสภาพอากาศที่ดีในประเทศอินเดียและเวียดนามซึ่งส่งผลทำให้อุปสงค์ยังคงอยู่ในระดับสูง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 41-47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 43-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ความไม่สงบในประเทศไนจีเรียที่ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบเดือน พ.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ 1.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลัง Shell อพยพคนงานออกจากแหล่งผลิตน้ำมัน Bonga (กำลังการผลิต 90,000 บาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากถูกโจมตี ขณะที่ Chevron เองก็หยุดการผลิตน้ำมันในแหล่ง Okan (กำลังการผลิต 35,000 บาร์เรลต่อวัน) ด้วย
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะลดลงต่อหลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายงานโดย EIA ณ วันที่ 6 พ.ค. ปรับตัวลดลงกว่า 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 8.80 ล้านบาร์เรลต่อวัน
จับตาว่าการผลิตน้ำมันดิบแคนาดาจะกลับมาเป็นปกติได้เร็วแค่ไหน หลังสถานการณ์ไฟป่าที่ประเทศแคนาดาเริ่มคลี่คลาย ซึ่งก่อนหน้านี้เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทน้ำมันรวมทั้งสิ้นกว่า 11 รายมีการลดกำลังการผลิตลงไปกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน