- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 16 July 2014 23:11
- Hits: 2990
จ่อล็อบบี้ต่ออายุโรงไฟฟ้าระยอง ปี 58 สรุปแผนแยกท่อก๊าซมิตรผลเปิดตัวโซลาร์รูฟ
ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * จับตา กฟผ. ล็อบบี้ กกพ.ต่อสัญญาโรงไฟฟ้าระยองให้อีก 5 ปี ให้เอ็กโกบริษัทลูก หลังทุ่มงบกว่า 14,000 ล้านบาท ปรับปรุงระบบสายส่งภาคตะวันออก ชี้ขัดกับแผน PDP ใหม่ ที่ลดใช้ก๊าซธรรมชาติดันโรงไฟฟ้าถ่านหิน ด้าน ปตท.แจงต้นปี 58 สรุปแผนแยกธุรกิจ ส่วนมิตรผลเปิดตัวโครงการโซลาร์รูฟท็อปแห่งแรก
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พยายามผลักดันคณะกรรม การกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต่อสัญญาโรงไฟฟ้าระยองที่จะหมดอายุในวันที่ 7 ธ.ค.2557 ออก ไปอีก 5 ปี ให้กับ บมจ.ผลิตไฟฟ้า หรือเอ็กโก ซึ่งหากมีการต่อสัญญาโรงไฟฟ้าระยอง อาจจะขัดกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ (PDP 2013) ที่กำลังเดินหน้าลดการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าลง 13,000 เมกะวัตต์ และผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และการรับซื้อ ไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านแทน
"หากมีการต่อสัญญาต้อง การเจรจาค่าไฟฟ้ากันใหม่ ซึ่งโดยหลักการแล้วค่าไฟฟ้าใหม่ จะต้องไม่แพงกว่าราคาค่าไฟฟ้าของภาคเอกชน แต่โรงไฟฟ้าระยองเดินเครื่องผลิตไฟฟ้ามาแล้ว 25 ปี ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าต่ำกว่าเอกชน จึงเป็นไปได้ว่าอาจทำให้ค่าไฟฟ้าสูงกว่าเอกชน" แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้ กฟผ.ได้จัดเตรียมแผนลงทุนประ มาณ 14,000 ล้านบาท ในการเสริมระบบความมั่นคงด้านภาคตะวันออก โดยปรับปรุงระบบสาย ส่งขนาด 230 เควี จากสถานีไฟฟ้าระยอง 2 ไปยังสถานีบาง ละมุง 2 และลงทุนก่อสร้างสาย ส่งใหม่ขนาด 500 เควี จากสถานี บางละมุง 2 ไปยังสถานีปลวก แดง เนื่องจากระบบสายส่งเดิมเต็ม ไม่สามารถรับกระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมได้ หากโรงไฟฟ้าระยองได้ต่อสัญญา กฟผ.จึงจำเป็นต้องปรับปรุงระบบสายส่งเพื่อรองรับไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สมัย นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็น รมว.พลังงาน กกพ.ได้อนุมัติให้เอ็กโกก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมขนาด 930 เมกะวัตต์ โดยไม่ต้องเปิดประมูล เนื่องจาก โรงไฟฟ้าขนอมจะหมดอายุในปี 2559 อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าระยองสามารถสร้างผลกำไรให้กับเอ็กโกในปี 2556 ได้กว่า 500 ล้านบาท
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บมจ.ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ทาง ปตท.อยู่ในระหว่างการศึกษา การแยกธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานออกจากการทำธุรกิจของ ปตท. โดยคาดว่าในวันที่ 1 ม.ค.2558 จะสรุปแผนแยกรูปแบบธุรกิจได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การแยกธุรกิจท่อส่งก๊าซออกมาเป็นบริษัท ต้องใช้เวลาใน การศึกษารูปแบบก่อน โดยเฉพาะ ในด้านความมั่นคงทางพลังงาน โดยเฉพาะในประเด็นที่เมื่อแยกท่อก๊าซออกไปแล้ว และหากเกิดกรณีไม่มีก๊าซอยู่ในระบบ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ หลังจากการเปิดเสรีการค้า หรือ TPA ในอนาคต ส่วนเรื่องการขายหุ้นโรงกลั่น 2 โรงกลั่น ทั้งในส่วนของ SPRC และโรงกลั่นบางจาก คงจะต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพัก
นายประวิทย์ ประกฤตศรี กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลัง งานหมุนเวียน กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า "ทางบริษัทได้ต่อยอดไปสู่พลัง งานจากแสงอาทิตย์ โดยเปิดตัวโครงการโซลาร์รูฟท็อปแห่งแรกที่โรงไฟฟ้ามิตรผล ภูเขียว ซึ่งคาดว่ามีกำลังผลิตไฟฟ้าได้มากกว่า 1.3 ล้านหน่วยต่อปี จากปัจจุบันกลุ่มมิตรผลมีโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้งหมด 6 แห่ง ในจังหวัดสุพรรณบุรี สิงห์ บุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และเลย มีกำลังการผลิตรวม 400 เมกะวัตต์ และมีสัญญาการขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กฟภ. กว่า 200 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2557 นี้คาดว่ากลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนจะเติบโตได้ถึง 10% และเป็นผู้นำด้านธุรกิจไฟฟ้าชีวมวลและเอทานอลได้อย่างต่อเนื่อง".