- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 20 April 2016 17:05
- Hits: 2426
วงการคาดโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ อาจมีปัญหานำไปสู่การฟ้องร้อง
แหล่งข่าววงการผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คาดว่าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ) ระยะแรก 600 เมกะวัตต์ (MW) ที่จะมีการจับสลากเพื่อหาผู้ที่ได้รับคัดเลือกในวันที่ 21 เม.ย.นี้ อาจประสบปัญหาหลังการประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นนั้นยังมีข้อสงสัยว่าจะมีความเป็นธรรมหรือไม่ เนื่องจากกกพ.ได้ตัดสิทธิโครงการในกลุ่มราชการทั้งหมด ขณะที่ผู้ที่มีรายชื่อผ่านการคัดเลือกรอบแรก บางแห่งเป็นโครงการที่อยู่ในพื้นที่สีเขียว และสหกรณ์บางแห่งมีผลการดำเนินงานขาดทุน ซึ่งน่าจะผิดหลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมเสนอขายไฟฟ้า ส่งผลให้มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การฟ้องร้องได้ในอนาคต
"เท่าที่คุยกันตอนนี้กลุ่มราชการทั้ง อบต., อบจ.แม้จะยังไม่เห็นท่าทีที่ชัดเจน แต่มีความไม่พอใจ เพราะทุกเรื่องรู้กันก่อนวันที่ 20 พฤศจิกายน 58 แล้วว่าทำไม่ได้ แต่ทาง กกพ.ก็รับเอกสารไป ทางฝั่งของกลุ่มสหกรณ์ ซึ่งมีหลักเกณฑ์ทั้งเรื่องของพื้นที่สีเขียว และเรื่องมาตรฐานของสหกรณ์ ทั้งเรื่องการทุจริตและมีผลขาดทุน ซึ่งในกลุ่มของสหกรณ์ก็รู้กันว่ารายชื่อที่ผ่านคุณสมบัติเข้ามานั้นก็มีผลขาดทุน แต่ทำไมถึงผ่านคุณสมบัติ ซึ่งคนที่ติดเงื่อนไขนี้น่าจะมีราว 10% หรืออาจจะมากถึง 30% ในรายชื่อทั้ง 167 โครงการที่ผ่านคุณสมบัติเข้ามา ทำให้มีจำนวนผู้เข้าร่วมจับสลากมากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น"แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มหน่วยงานราชการที่ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตัดสิทธิการเข้าร่วมจับสลากในครั้งนี้ ด้วยเหตุผลว่าขัด พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) นั้น ในการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกในครั้งแรกเมื่อเดือน ธ.ค.58 มีกลุ่มหน่วยงานราชการผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นถึง 121 โครงการ ทั้งที่ กกพ.ใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเดียวกัน โดยยึดข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ย.58 แต่ในการพิจารณาประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกครั้งล่าสุด กลับไม่มีโครงการของกลุ่มหน่วยงานราชการเข้ามาเลย
ขณะที่ในกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร กลับมีจำนวนผู้ผ่านการคัดเลือกครั้งล่าสุดในปริมาณมากถึง 167 โครงการ จากเดิมที่ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกในครั้งแรกมีเพียง 98 โครงการ แม้ภาครัฐจะให้เหตุผลว่าเป็นการยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองที่ออกมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.59 แต่ตามข้อเท็จจริงเห็นว่ากฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง เพราะ กกพ.ใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาโดยยึดข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ย.58 ซึ่งทำให้การประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติล่าสุดนั้นทำให้ผู้ที่ติดปัญหาผังเมือง หรืออยู่ในพื้นที่สีเขียวบางส่วนกลับเข้ามาร่วมจับสลากในครั้งนี้ได้
นอกจากนี้ ในประเด็นมาตรฐานของกลุ่มสหกรณ์นั้น แม้จะได้รับการรับรองจากกรมส่งเสริมสหกรณ์จังหวัดก็ตาม แต่ในความเป็นจริงมีบางแห่งที่ได้รับการคัดเลือกให้ร่วมจับสลากก็มีผลการดำเนินงานขาดทุน ซึ่งผิดเงื่อนไขคุณสมบัติของ กกพ. ทำให้เป็นที่กังวลว่าอาจจะมีกลุ่มอื่นร้องฟ้องเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งจะทำให้การเดินหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯอาจจะมีปัญหาตามมาได้
อนึ่ง กกพ.ได้ออกประกาศและหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ โดยการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวมีปริมาณรวมไม่เกิน 800 เมกะวัตต์ แบ่งการรับซื้อเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจำนวน 600 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการหน่วยงานราชการ 300 เมกะวัตต์และสหกรณ์ 300 เมกะวัตต์ มีกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.59 ส่วนระยะที่สอง มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าในช่วงวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.61
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.58 กกพ.ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเพื่อเข้าร่วมจับสลากรวมทั้งสิ้น 219 ราย จำนวนรวม 1,028.67 เมกะวัตต์ จากผู้ที่ยื่นทั้งหมด 604 ราย จำนวนรวม 2,835.50 เมกะวัตต์ แต่ก็ได้รับการร้องเรียนจากผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งส่วนใหญ่ติดปัญหาผังเมืองไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้ ทำให้ต้องเลื่อนการจับสลากออกไป
พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้มีการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ รวมถึงการยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองเมื่อวันที่ 20 ม.ค.59 และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ได้ปรับปรุงขั้นตอนเพื่อให้ลดปัญหาและอุปสรรคตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ขณะที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้เลื่อนการ COD ของโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ ระยะแรกไปเป็นภายในวันที่ 31 ธ.ค.59
ขณะที่เมื่อวานนี้ กกพ.ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเข้าร่วมจับสลากโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 เม.ย.นี้ จำนวน 167 ราย กำลังการผลิตสูงสุดรวม 835 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตรทั้งหมด ขณะที่กลุ่มราชการถูกตัดสิทธิเพราะขัดหลักเกณฑ์พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ทำให้การจับสลากครั้งนี้จะคัดเลือกให้เหลือเพียง 300 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโควตาในส่วนของกลุ่มสหกรณ์เท่านั้น โดยโควตาของกลุ่มราชการที่ไม่ได้รับการคัดเลือกในรอบนี้จะถูกนำไปรวมในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในระยะที่ 2 ที่คาดว่าจะมีขึ้นในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ที่คาดว่าจะเปิดรับซื้อทั้งสิ้นรวม 500 เมกะวัตต์ จากเดิมที่จะเปิดเพียง 200 เมกะวัตต์เท่านั้น
สำหรับ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯหลายแห่ง ได้ยื่นเป็นผู้สนับสนุนโครงการของกลุ่มสหกรณ์และกลุ่มราชการ โดยในส่วนของบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้งส์ (RATCH) ได้ยื่นเป็นผู้สนับสนุนโครงการดังกล่าวรวม 6-7 โครงการ ซึ่งเป็นกลุ่มราชการทั้งหมด ทำให้ไม่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมจับสลากในครั้งนี้ ส่วน บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ระบุว่าได้ยื่นเข้าร่วมสนับสนุนโครงการวม 40-50 เมกะวัตต์ ซึ่งได้รับสิทธิเข้าร่วมจับสลากในครั้งนี้ด้วย แต่ไม่เปิดเผยจำนวนโครงการที่ผ่านการคัดเลือก
ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่าจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) มีโครงการผ่านคุณสมบัติ 10 โครงการ,บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ผ่าน 2 โครงการ,บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ผ่าน 3 โครงการ, บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) ผ่าน 3 โครงการ เป็นต้น
อินโฟเควสท์
167 รายผ่านชิงโซลาร์สหกรณ์เตรียมจับสลาก 21 เม.ย.ลุ้นค่าเอฟทีงวดพ.ค.ลด
ไทยโพสต์ : จามจุรี * "กกพ." ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเฟสแรกเฉพาะโซลาร์สหกรณ์ 167 เตรียมจับสลาก 21 เม.ย. ด้านโซลาร์ราชการคาดยกยอดไปเฟส 2 ต้นปี 60 หลังพบติด PPP ทั้งหมด ลุ้นค่าไฟฟ้า งวดใหม่ พ.ค.-ส.ค.59 มีลุ้นปรับลดลงเหตุรับอานิสงส์ ราคาน้ำมันลด ค่าบาทแข็ ความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลง
นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ และในฐานะโฆษก กกพ.เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกพ.ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกคุณสมบัติเพื่อเข้าไปจับสลากในการเสนอขายไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม เฉพาะสหกรณ์ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้มีทั้งสิ้น 167 ราย จำนวน 835 เมกะวัตต์ ซึ่งในระยะแรกมีนโยบายรับซื้อจากโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์เพียง 300 เมกะวัตต์ ดังนั้นส่วนที่เหลือประมาณ 500 เมกะวัตต์ จะยกไประยะ ที่ 2 แบ่งเป็นโซลาร์ราชการ 400 เมกะวัตต์ และโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเปิดให้ยื่นได้ภายในสิ้นปี 2559 นี้ หรือต้นปี 2560
"ปัญหาผังเมืองจึงต้องมีการแก้ไข เปิดรับสมัครใหม่ และคัดเลือกใหม่ รวมถึงกรณีปัญหา พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 หรือ PPP ซึ่งทางอัยการและกฤษฎีกายืนยันชัดเจนว่า หน่วยราชการติด พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ แต่ต่อมามีการแก้ไข ดังนั้นคณะอนุกรรมการฯ ที่พิจารณาคุณสมบัติ ได้พิจารณาที่มีการยื่นข้อเสนอเมื่อ 20 พ.ย.58 ก็พบว่าไม่มีหัวหน้าส่วนราชการลงนามรับรองเสนอโครงการมาสักรายเดียว ดังนั้นวันที่ 21 เม.ย.59 นี้ จึงจับสลากแค่เพียงโซลาร์สหกรณ์ ซึ่งจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในวันเดียวกันช่วงบ่าย และต้องเสนอบอร์ด กกพ.อีกครั้งเพื่อประกาศอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ค." นายวีระพลกล่าว
สำหรับ โครงการโซลาร์ราชการเฟส 2 นั้น ผู้ที่จะยื่นเสนอขายไฟ สามารถดำเนินการตามขั้นตอน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ที่มีการผ่อนผันให้กระบวนการง่ายขึ้น เพื่อเสนอมาอีกครั้ง ขณะเดียวกัน กกพ.เตรียมที่จะเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed in Tariff Biding หรือ FiT- biding ในส่วนของไฟฟ้าชีวมวล 36 เมกะวัตต์ ภาคใต้ในช่วงเดือน พ.ค.59 นี้ และหลังจากนั้นกลางปีจะเป็นการเปิดรอบ 2 แบบรับซื้อทั่วประเทศ ส่วนการซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน 500 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม ภายในเดือน พ.ค.59 นี้จะได้ข้อสรุปชัดเจนว่าจะมีที่จังหวัดใดบ้าง เป็นต้น
นายวีระพล กล่าวว่า การพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.) นี้ ค่าเอฟที่จะปรับตัวลดลง เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากคาดการณ์เดิม ตลอดจนมีการปรับลดพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในปี 59 ลง
"การพิจารณาค่าเอฟทีในงวดใหม่นี้อาจจะไม่ได้ลดเต็มที่มากนัก เพราะอาจต้องเกลี่ยอัตราการปรับลดออกไปในงวดอื่นด้วย เนื่องจากเมื่อประเมินในระยะข้างหน้าจะมีกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนจำนวนมากทยอยเข้าระบบ โดยเฉพาะกลุ่มโซลาร์ฟาร์มค้างท่ออีก 400 เมกะวัตต์ จะทยอยเข้าระบบในช่วงนี้จนถึงเดือน มิ.ย.59 หากกลุ่มนี้สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายใน เม.ย. ก็จะได้รับอัตราค่าไฟฟ้า FiT ในอัตราเดิมที่ 5.66 บาท/หน่วย แต่หากจ่ายไฟฟ้าได้ภายใน 30 มิ.ย. จะได้รับค่าไฟฟ้าลดลง 5%" นายวีระพลกล่าว.