- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Wednesday, 30 March 2016 23:05
- Hits: 3547
ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังอุปทานปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการกลับมาผลิตน้ำมันดิบในแหล่ง Khafji ของคูเวตและซาอุดิอาระเบีย
-ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 3 วานนี้ หลังจากนักลงทุนในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบได้กลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์อุปทานล้นตลาดอีกครั้ง หลังซาอุดิอาระเบียและคูเวต ประกาศที่จะกลับมาผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Khafji ที่เคยมีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 300,000 บาร์เรลต่อวันอีกครั้ง หลังจากได้หยุดการผลิตไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2557 จากเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม โดยแหล่ง Khafji ตั้งอยู่ในเขตชายแดนระหว่างซาอุดิอาระเบียและคูเวต
- นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากท่าทีของอิหร่านที่ถึงแม้ว่าจะตอบรับการเข้าร่วมการประชุมของกลุ่มประเทศโอเปกที่จะหารือเกี่ยวกับการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม ณ กรุงโดฮา ในวันที่ 17 เมษายน 2559 นี้ อย่างไรก็ดีอิหร่านยังไม่มีท่าทีที่จะตอบตกลงเข้าร่วมแผนการคงระดับการผลิตน้ำมันดิบในครั้งนี้
+/- อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ของ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรลซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3 ล้านบาร์เรล
+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ปรับตัวอ่อนค่าลง หลัง Janet Yellen ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เฟดควรจะระมัดระวังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายของสหรัฐฯ เนื่องจากยังคงกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่อาจจะยังส่งผลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบมีราคาต่ำลงในสายตานักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันเบนซินที่เพิ่มมากขึ้นจากประเทศจีนในช่วงสองเดือนแรกของปี 2559 อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันเบนซินยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเคนย่า
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องมาจากอุปทานที่ล้นตลาด หลังโรงกลั่นในภูมิภาคเริ่มกลับมาดำเนินการผลิต นอกจากนี้ราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกที่มากขึ้นจากประเทศไทยในช่วงสองเดือนแรกของปี 2559 อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเคนย่าและศรีลังกา
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 36-42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 38-44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ตลาดยังคงจับตาการประชุมระหว่างกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกราว 13 ประเทศ ในวันที่ 17 เม.ย. ณ เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงในการคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับเดียวกับ ม.ค.59 และรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบ
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ (สิ้นสุด ณ วันที่ 18 มี.ค.) ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 9.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึงสามเท่า แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 532.5 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาจะไม่ยั่งยืน เนื่องจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นอาจโน้มน้าวให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ กลับมาดำเนินการผลิตใหม่ ซึ่งสะท้อนได้จากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 สัปดาห์