- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Saturday, 19 March 2016 18:19
- Hits: 2080
กฟน.จะขยายโครงการสายไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มอีก 127.3 กม.วงเงินลงทุน 4.87 หมื่นลบ.
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้จัดงานแถลงข่าว ‘เดินหน้าโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน เพิ่มเติม 7 โครงการ’ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ การไฟฟ้านครหลวง โดยนายนิพนธ์ จิรทวีวุฒิ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ให้ข้อมูล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
กฟน.จะขยายโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน 127.3 กิโลเมตร จากช่วงที่ผ่านมา กฟน. ได้ดำเนินโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว 40.6 กิโลเมตร ได้แก่ สีลม ปทุมวัน จิตรลดา พหลโยธิน พญาไท และสุขุมวิท และโครงการที่ กฟน. กำลังดำเนินการได้แก่ จิตรลดา ปทุมวัน และพญาไท (เพิ่มเติม) นนทรี พระราม 3 รัชดาภิเษก-พระราม 9
โดยระยะที่ 1 ที่จะขยายรวมทั้งสิ้น 127.3 กิโลเมตร จำนวน 7 โครงการ มีระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี (2559-2568) วงเงินลงทุน 48,717 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) โครงการติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ 2) โครงการลาดพร้าว – รามคำแหง 3) โครงการสามเสน-รอบ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน 4) โครงการสาทร – เจริญราษฎร์ 5) โครงการวงเวียนใหญ่-อรุณอมรินทร์ 6) โครงการเทพารักษ์-สุขุมวิท 7) โครงการเขตพื้นที่เมืองชั้นใน
ทั้ง 7 โครงการดังกล่าว จะทำในปี 2559 ก่อน 3 โครงการ ได้แก่ 1)โครงการสามเสน-รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2559 ดำเนินการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าร่วมกับงานโครงการของการประปานครหลวง (กปน.) บริเวณโดยรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2562 รวมระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี
2)โครงการเทพารักษ์-สุขุมวิท ดำเนินการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช-แบริ่ง และแบริ่ง-สมุทรปราการ) คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2564 รวมระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี
3)โครงการวงเวียนใหญ่-อรุณอัมรินทร์ ดำเนินการก่อสร้างท่อร้อยสายไฟฟ้าร่วมกับงานโครงการของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณโดยรอบโรงพยาบาลศิริราช คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2565 รวมเวลาดำเนินการ 7 ปี
แผนงานโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็น มหานครแห่งอาเซียน ตามนโยบายของภาครัฐบาล ซึ่งกฟน. จะพิจารณาตามความต้องการเร่งด่วน ในพื้นที่แนวถนนสายหลัก แนวก่อสร้างรถไฟฟ้า และบริเวณสาธารณูปโภคสำคัญ รวมถึงบริเวณย่านธุรกิจที่มีแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสำคัญ
การดำเนิน 7 โครงการ ดังล่าว จะไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าเดิม เว้นแต่ผู้ที่ขอใช้ไฟฟ้าใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงการใช้ไฟฟ้าเป็นระดับแรงดันสูงตั้งแต่ 12,000 โวลต์ ขึ้นไป และผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีพื้นที่อยู่ในระยะ 50 เมตร จากขอบถนน โดยต้องติดต่อเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงเพื่อรับทราบข้อกำหนดมาตรฐานในการติดตั้งอุปกรณ์ที่รองรับกับระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน โดยจะมีการคิดค่าบริการขอใช้ไฟฟ้าระดับแรงดันสูงเพิ่มเติมจากเดิม นับตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป หากประชาชนต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ MEA CallCenter โทร 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.mea.or.th
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย