- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 10 March 2016 19:35
- Hits: 2694
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน หลังสต๊อกน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงและคาดโอเปกจะได้ข้อตกลงในเร็วนี้
+/- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 5 จากวันก่อนหน้า หลังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่รายงานปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 4 มี.ค. ปรับลดลงกว่า 4.5 ล้านบาร์เรล เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3.9 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 522 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่สูงสุดในรอบประวัติการณ์
+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังตลาดคาดว่าการประชุมระหว่างผู้ผลิตน้ำมันดิบในโอเปกและนอกกลุ่ม ที่คาดว่า
จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 มี.ค. และ 1 เม.ย.นั้น ผู้ผลิตมีแนวโน้มที่จะหามาตรการในรักษาเสถียรภาพราคาได้ โดยก่อนหน้าการประชุมดังกล่าว จะมีการประชุมของผู้ผลิตน้ำมันดิบในแถบละตินอเมริกาในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เดียวกันคือการหารือเรื่องการคงปริมาณการผลิตเพื่อรักษาเสถียรภาพทางด้านราคา
- อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบ Shale Oil ของสหรัฐฯ เริ่มประกาศที่จะเพิ่มแผนการขุดเจาะน้ำมันดิบเพิ่มเติม โดยล่าสุด Chevron ประกาศจะเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันดิบที่แหล่งผลิตน้ำมันดิบ Permian เพิ่มขึ้น 2 แท่นจากแผนเดิม หลังที่ระดับราคาน้ำมันประมาณ 40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรลคุ้มค่าต่อการขุดเพิ่มเติม ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ อาจจะลดลงช้ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
- ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักทางตอนเหนือคาดจะกลับมาเพิ่มขึ้นในเร็วนี้ หลังตุรกีเพิ่มกำลังทางทหารเพื่อรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ส่งผลให้การซ่อมแซมท่อขนส่งน้ำมันซึ่งมีกำลังการผลิตกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวันคาดจะเปิดใช้งานได้ในเร็วนี้ โดยผลของการโจมตีท่อขนส่งน้ำมันดิบส่งผลให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักทางตอนเหนือในเดือน ก.พ. ปรับลดลงกว่าครึ่งมาอยู่ที่ระดับ 350,000 บาร์เรลต่อวันเท่านั้น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากตลาดน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวขึ้นหลังสต๊อกน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดี ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานในตลาดที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคที่ปรับลดลงจากโรงกลั่นที่ปิดซ่อมบำรุงและโรงกลั่นในญี่ปุ่นที่เริ่มปรับลดกำลังการผลิตลง ประกอบกับยังมีแรงซื้อจากเวียดนามและมาเลเซียช่วยสนับสนุน
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 32-39 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 35-42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ติดตามการประชุมนัดพิเศษระหว่างประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปกและรัสเซียที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือน มี.ค. โดยรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของเวเนซูเอล่า คาดว่าจะมีผู้ผลิตน้ำมันดิบมากกว่า 15 ประเทศที่จะเข้าร่วมการประชุมที่จะถึงนี้ เพื่อที่จะหารือถึงการคงระดับกำลังการผลิตเอาไว้เท่ากับเดือน ม.ค. 59 และรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันดิบ
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดที่ยังไม่คลี่คลาย โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ (สิ้นสุด ณ วันที่ 4 มี.ค.) ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 522 ล้านบาร์เรล
