- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 08 May 2014 23:07
- Hits: 4613
บิ๊กกฟผ.เผยจำใจปรับค่าเอฟที ชี้แนวโน้มต้นทุนผลิตไฟยังพุ่งต่อเนื่อง
แนวหน้า : นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.ยอมรับได้ที่จะต้องแบกรับภาระต้นทุนค่าไฟดังกล่าวส่วนหนึ่ง แต่ กฟผ.เองมีภาระที่จะต้องลงทุนสายส่ง และโรงไฟฟ้า ให้เป็นไปตามแผน ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งในงวดนี้ ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นจากราคาก๊าซฯ เป็นหลักและงวดที่ผ่านมามีความโชคดีที่การผลิตไฟจากน้ำมาก ทำให้ต้นทุนต่ำ แต่งวดนี้การผลิตไฟจากน้ำค่อนข้างต่ำ เพราะมีการใช้น้ำมากกว่าแผน โดยเฉพาะในเขื่อนสิรกิตต์และภูมิพล ที่ล่าสุดมีน้ำเหลือใช้เพียง 20% หากฝนมาล่าช้า ก็อาจกระทบต่อต้นทุนค่าไฟจากพลังน้ำในงวดถัดไปได้
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงในอนาคต คือ หากไทยยังพึ่งพาก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้า เพิ่มขึ้นค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้น เพราะต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีและอิงราคาตลาดโลก ดังนั้น ต้องเร่งกระจายเชื้อเพลิง เช่น การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทดแทนแม่เมาะ 4-7 กำลังการผลิตรวม 600 เมกะวัตต์ มูลค่า 28,000 ล้านบาท ล่าสุด มีการตีความแล้วว่าเป็นงบผูกพัน ดังนั้น ต้องเสนอรัฐบาลใหม่จะพิจารณา ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าโรงเก่าอายุ 34 ปี หมดอายุแล้ว หากต้องหยุดเดินเครื่องในปี 2561 และโรงใหม่ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ต้องพึ่งพาโรงไฟฟ้าอื่นผลิตไฟฟ้าทดแทน โดยต้องใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงก็จะทำให้ ต้นทุนแพงขึ้น 5,000 ล้านบาท/ปี และกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่ประชาชนได้รับในที่สุด
ด้าน นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจงามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) กล่าวว่า วันที่ 1 พ.ค.57 นี้ แอลพีจีครัวเรือนจะต้องปรับขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม(กก.) ส่งผลให้ราคาแอลพีจีครัวเรือนมีการปรับขึ้นแล้วรวม 4.50 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนจะอยู่ที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาแอลพีจีภาคขนส่ง ยังคงตรึงอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาแอลพีจีครัวเรือนสูงกว่าขนส่งถึง 1.25 บาทต่อกิโลกรัม
"ขณะนี้ พบว่า กรมธุรกิจพลังงานเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันการใช้ผิดประเภท ซึ่งที่ผ่านมา ก็พยายามประชาสัมพันธ์ว่า หากนำถังแอลพีจีครัวเรือนไปเติมปั๊มแก๊สจะมีความผิดมาก ซึ่งขณะนี้ ไม่น่าเป็นห่วงเพราะยังไม่ห่างกันถึง 2 บาทต่อกิโลกรัม เพราะราคาระดับนี้น่าจะจูงใจมากกว่า" นายชิษณุพงศ์ กล่าว
