- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 01 February 2016 18:30
- Hits: 1778
BCP ซื้อโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นขนาดรวม 198 MW มูลค่าราว 2.9 พันลบ.
บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) แจ้งว่าบริษัท บีซีพีจี จำกัด (BCPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ลงนามในสัญญา Purchase and Sale Agreement กับบริษัท SunEdison International จำกัด (SEI) และบริษัท SunEdison Energy Holding (Singapore) จำกัด (SEH) เพื่อเข้าซื้อธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด ของกลุ่ม SunEdison ในวงเงินไม่เกิน 9,626 ล้านเยน หรือประมาณ 2,915 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 198 เมกะวัตต์ (MW)
การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 ม.ค.59 และได้มีการลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา สำหรับโรงไฟฟ้าของกลุ่ม SunEdison ประกอบด้วย โครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว 13 เมกะวัตต์ ,โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 27 เมกะวัตต์ และโครงการระหว่างการพัฒนา 158 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ จะเป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดใน 3 บริษัท ได้แก่ SunEdison Japan Corporation จำกัด (SEJ) ,บริษัท SunEdison Japan Debt Financing จำกัด (SEDF) และบริษัท SunEdison TK Investor 1 จำกัด (SETK)
สำหรับ SEJ มีส่วนทุนของกิจการ 489 ล้านเยน หรือราว 148 ล้านบาท เป็นผู้พัฒนาโครงการ บริหารจัดการ ก่อสร้างและดำเนินการ รวมถึงบริหารเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น โดยมีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนากว่า 185 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 27 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 158 เมกะวัตต์
ส่วน SEDF มีส่วนทุนของกิจการ 2.64 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 67 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวม 3 เมกะวัตต์ในญี่ปุ่น และ SETK มีส่วนทุนของกิจการ 7.43 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 188 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์ในญี่ปุ่น
BCP ระบุว่า สำหรับเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะใช้เงินสดภายในบริษัท โดยการชำระเงินจะแบ่งเป็น 2 ส่วน การชำระครั้งแรก ในวงเงินไม่เกิน 4,141 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 1,254 ล้านบาท โดยอ้างอิงจากการประเมินมูลค่าของโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว โครงการระหว่างการก่อสร้าง และโครงการที่มีความพร้อมในการก่อสร้าง รวมประมาณ 63 เมกะวัตต์ รวมถึงมูลค่าของ SEJ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการทำหน้าที่พัฒนาโครงการใหม่ และบริหารจัดการการลงทุน ส่วนที่เหลือจะชำระตามเงื่อนไขความสำเร็จของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท และ BPCG ในการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มมูลค่าของกิจการและกระจายความเสี่ยงของรายได้
"การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของบีซีพีจีในการขยายฐานการเติบโตมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในระดับภูมิภาค ตามที่บริษัทบางจากฯ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันปิโตรเลียม ในปี 2557 ด้วยมีเป้าหมายที่จะสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของชาติ และขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่เพื่อสร้างความต่อเนื่องและความยั่งยืนแก่กิจการ"นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ BCP กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าวนั้นปัจจุบันมีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วจำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 13 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 27 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 158 เมกะวัตต์
ด้านนายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีซีพีจี จำกัด กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการ SunEdison Japan เป็นการขยายกิจการของบริษัทบีซีพีจี ในด้านกำลังการผลิตไฟฟ้าและทางด้านภูมิศาสตร์ ซึ่งจะทำให้บีซีพีจีมีฐานที่สำคัญในภูมิภาคเพื่อรองรับการขยายการลงทุนไปยังประเทศอื่นๆ ตามเป้าหมายการขยายขนาดธุรกิจ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 59 ซึ่งภายหลังจากการเข้าทำรายการเสร็จสิ้นแล้ว จะสามารถเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนได้ทันที และจะส่งผลให้บริษัท บีซีพีจี มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีกำลังการผลิตเป็น 410 เมกะวัตต์
นายเนโตชิ คูริยามา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเอดิสัน เจแปน จำกัด กล่าวว่า บริษัทยังคงขยายการลงทุนไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทนอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นอีก ด้วยศักยภาพ ทั้งด้านบุคคลากร การออกแบบก่อสร้าง การบำรุงรักษา การพัฒนาธุรกิจ ตลอดจนบุคคลากร ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในตลาดพลังงานหมุนเวียน
BCPG เป็นบริษัทย่อยของ BCP โดยดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และเป็นเจ้าของโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท บางจากฯ และบริษัทย่อย ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 180 เมกะวัตต์ มีกำลังการผลิตจำหน่าย 118 เมกะวัตต์
อินโฟเควสท์