- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 21 January 2016 16:48
- Hits: 1489
ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 6% จากความกังวลอุปทานล้นตลาด และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสได้ปรับตัวลดลงที่ตลาดนิวยอร์ก (WTI) ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับลดลง 1.22 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 28.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบได้ปรับลดลงกว่า 25% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินในปี 2552 โดยราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำส่งผลให้รายได้ของผู้ประกอบการขุดเจาะน้ำมันลดลง อย่างไรก็ดีประเทศผู้ส่งออกน้ำมันยังคงดำเนินนโยบายผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ณ วันที่ 15 ม.ค. 59 ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล มาที่ระดับ 485.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 63,000 บาร์เรล
- ประเทศเวเนซุเอลาขอให้โอเปกจัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหาแนวทางในการพยุงราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี ประเทศในกลุ่มโอเปกหลายประเทศให้ความเห็นว่าการประชุมนี้ไม่น่าจะมีขึ้นได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ซาอุดิอาระเบียเคยปฏิเสธการเข้าร่วมประชุมฉุกเฉิน อย่างไรก็ดี หนึ่งในประเทศสมาชิกโอเปกให้ความเห็นว่าราคาน้ำมันจะไม่สามารถอยู่ในระดับต่ำเช่นนี้ได้นาน เนื่องจากความไม่คุ้มทุนของต้นทุนการผลิตน้ำมันดิบ โดยเฉพาะผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งหากราคาน้ำมันดิบลดลงถึง 20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จะส่งผลให้ผู้ประกอบการบางแห่งหยุดการผลิต ส่งผลให้ปริมาณอุปทานน้ำมันดิบลดลง และทำให้ราคาปรับขึ้นได้
- สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ให้ความเห็นว่าตลาดน้ำมันดิบโลกจะอยู่ในสภาวะอุปทานล้นตลาดไปจนถึงปลายปี 2559 เนื่องจากอุปทานในตลาดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศอิหร่าน หลังจากมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านถูกยกเลิก ทำให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันดิบได้ตามปกติ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในตลาดที่เพียงพอ โดยโรงกลั่นแห่งหนึ่งในจีนจะกลับมาดำเนินการอีกครั้งในวันนี้หลังจากปิดซ่อมบำรุงกะทันหันประมาณ 1 เดือน และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้น 4.31% จากสัปดาห์ก่อนมาที่ระดับ 11.49 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณอุปทานที่เพียงพอ โดยโรงกลั่นในอินเดียมีแผนการส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือนก.พ.นี้ อย่างไรดีแนวโน้มราคาน้ำมันดีเซลอาจปรับตัวสูงขึ้น หลังโรงกลั่นหลายแห่งวางแผนปิดซ่อมบำรุงในช่วงไตรมาส 2 นี้
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 28-35เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 27-34 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการรายงานตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาส 4 ว่าภาวะเศรษฐกิจของจีนยังคงแนวโน้มการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หลังภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Caixin PMI) ที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 กว่า 10 เดือนติดต่อกัน
ติดตามท่าทีของกลุ่มชาติตะวันตกต่อการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่าน หลังล่าสุดมีรายงานว่ายุโรปและสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวในเร็วนี้
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง โดยล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ม.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 94 ล้านบาร์เรล