โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ สระบุรีและนครราชสีมา เดินหน้าสร้างพลังงานทดแทน ผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้ว ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดีเซลปีละ 1 ล้านลิตร ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 2,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานปีละ 5 ล้านบาท ทั้งยังช่วยตัดวงจรน้ำมันทอดซ้ำที่จะก่ออันตรายต่อผู้บริโภค

     นายชาตรี รชตะสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จังหวัดสระบุรี ดำเนินการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จากน้ำมันพืชใช้แล้วที่ผ่านกระบวนการแปรรูปในโรงงาน นับตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากโรงงานมีการผลิตสินค้าประเภททอดเดือนละกว่า 600 ตัน ทำให้มีน้ำมันพืชที่ใช้ในกระบวนการทอดประมาณ 9 หมื่นลิตรต่อเดือน จึงมีแนวคิดในการนำน้ำมันพืชใช้แล้วในกระบวนการทอดไก่มาผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล B100 ทดแทนการใช้น้ำมันดีเซล โดยตลอดเวลากว่า 7 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โรงงานสระบุรีสามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้วดังกล่าวได้มากกว่า 3.79 ล้านลิตร ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ร่วม 19 ล้านบาท ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่า 7,674 ตันคาร์บอนไดออกไซด์

      นายชาตรี กล่าวอีกว่า ซีพีเอฟนำองค์ความรู้การผลิตไบโอดีเซลมาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยใช้กระบวนการแยกกลีเซอรีน 2 ครั้ง ทำให้ได้น้ำมันที่สะอาดและไม่มีปัญหากับเครื่องยนต์ สามารถนำมาใช้กับรถบรรทุกและรถยนต์ของโรงงานได้ 100% โดยไม่ต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ และมีการตรวจสอบเครื่องยนต์และชิ้นส่วนหลังการใช้งานอยู่เป็นประจำ พบว่าไม่มีผลกระทบใดๆ กับเครื่องยนต์

       “โครงการผลิตไบโอดีเซล ยังเป็นการช่วยตัดตอนการนำน้ำมันเก่ากระจายสู่ชุมชนและผู้บริโภค ที่นับเป็นอีกหนึ่งบทบาทในการช่วยเหลือดูแลสุขภาพของผู้บริโภค และคนในชุมชนใกล้เคียงโรงงาน เพราะในน้ำมันใช้แล้วมีสารพิษที่ก่อมะเร็งประเภทอนุมูลอิสระและไดออกซิน รวมทั้งสารเคมีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการประกอบอาหารซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ” นายชาตรี กล่าว

       ด้าน นายสุชาติ สิทธิชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กล่าวว่า สำหรับโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟ นครราชสีมา ที่มีกระบวนการแปรรูปอาหารประเภททอดด้วยเช่นกัน ทำให้มีน้ำมันเหลือจากกระบวนการมากถึงเดือนละ 5 หมื่นลิตร จึงเริ่มโครงการผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้วเมื่อปี 2553 ถึงปัจจุบันสามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซลใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลได้ถึง 1.34 ล้านลิตร ช่วยประหยัดต้นทุนค่าน้ำมันดีเซลได้ถึง 6.68 ล้านบาท โครงการนี้ไม่เพียงตอบสนองเป้าหมายการลดค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทดีเซลเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและช่วยลดต้นทุนการผลิตสินค้า เป็นการเพิ่มมูลค่าน้ำมันพืชที่ผ่านการใช้ประโยชน์แล้วอีกทางหนึ่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2,714 ตันคาร์บอนไดออกไซด์

“ที่สำคัญน้ำมันไบโอดีเซลที่บริษัทผลิตได้ ยังผ่านการรับรองมาตรฐานไบโอดีเซลชุมชน จากกรมธุรกิจพลังงาน เพราะมีความสามารถในการย่อยสลายได้ด้วยกระบวนการทางชีวภาพ ไม่มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ จึงดีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย