- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Thursday, 17 September 2015 08:44
- Hits: 2874
กกพ.เริ่มซื้อโซลาร์ฟาร์มพ.ย.นี้ TPCH หั่นเป้าหลังเลื่อนเปิด'แม่วงก์'
ไทยโพสต์ : จามจุรีสแควร์ * เรกูเลเตอร์เตรียมเปิดรับซื้อโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์การเกษตร เฟสแรก 600 เมกะวัตต์ ในวันที่ 1-10 พ.ย.2558 นี้ พร้อมนำร่องเปิดฟีดอินทารีฟ บิดดิ้ง รับซื้อไฟฟ้าขยะชีวมวล 3 จังหวัดชายแดนใต้ และใน 4 อำเภอ จังหวัดสงขลาตามมติ กพช.ในช่วง ต.ค.2558 นี้ ด้าน TPCH หั่นเป้ากำไร-รายได้ปีนี้ลง หลังโรงไฟฟ้าแม่วงก์เลื่อนเปิด มั่นใจผลประกอบการปี 2559 โต 3 เท่าตัว
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิด เผยว่า เรกูเลเตอร์เตรียมออกหลัก เกณฑ์การรับสมัคร ผู้เข้าร่วมโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วย ราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 800 เมกะวัตต์ ในรูปแบบฟีดอินทารีฟ บิดดิ้ง หรือการให้เงินสนับสนุนตามต้น ทุนที่แท้จริง โดยจะเริ่มเปิดให้ยื่นสมัครระยะแรกจำนวน 600 เมกะวัตต์ ในวันที่ 1-10 พ.ย.2558 ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาขายไฟฟ้าเข้าระบบ (ซีโอดี) วันที่ 30 ก.ย.2559 ส่วนระยะที่ 2 อีก 200 เมกะวัตต์ จะเริ่มในปี 2561 หลังจากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สร้างสายส่งไฟฟ้าภาคอีสานแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตั้งกรรมการ 2 ชุด โดยชุดแรกจะ ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการและพิจารณาสายส่งไฟฟ้าว่ารองรับตามที่ผู้ร่วมโครงการยื่นเสนอหรือไม่ และคณะกรรมการชุดที่ 2 จะมาพิจารณาเรื่องการแข่งขันประมูลขายไฟฟ้าเข้าระบบ (บิดดิ้ง) สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โดยเฉพาะขยะ ชีวมวลและก๊าซชีวภาพ ประมาณ 160 เมกะวัตต์
สำหรับ ความคืบหน้าโครง การการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวล และก๊าซชีวภาพในพื้นที่ 3 จัง หวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลานั้น เมื่อวันที่ 13 ส.ค.58 ที่ผ่านมา มติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) เชื้อเพลิงชีวมวลและก๊าซชีวภาพ ในปริมาณกำลังผลิต ติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ ด้วยวิธีแข่ง ขันด้านราคา (ฟีดอินทารีฟ บิดดิ้ง) คาดว่าจะเปิดนำร่องในพื้นที่ดังกล่าวได้ภายในเดือน ต.ค.2558 นี้
นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับลดเป้ากำไรสุทธิปีนี้เหลือโต 40% จากเดิมคาดโตได้เท่าตัว โดยปีก่อนอยู่ที่ 81.64 ล้านบาท และปรับลดเป้ารายได้เดิมตั้งเป้าโต 30-40% เหลือเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 258.26 ล้านบาท หลังจากโรงไฟฟ้าแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ เกิดความล่าช้าด้านใบสัญญาซื้อขายไฟ (พีพีเอ) ส่งผลให้ต้องเลื่อนจ่ายไฟเชิงพาณิชย์เป็นไตรมาส 3/2558 จากเดิมที่ต้องขายไฟตั้งแต่ช่วงต้นปี ทั้งนี้ ความล่าช้าดังกล่าว จะส่งผลบวกในระยะยาวเนื่องจากได้การคิดค่าไฟฟ้าเป็นแบบฟีดอินทารีฟ ซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิถึง 50%
สำหรับ รายได้และกำไรสุทธิปี 2559 คาดว่าจะเติบโต 3 เท่าตัวตามเป้าที่วางไว้ หลังจากรับรู้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 60 เมกะวัตต์ จากปีนี้ที่อยู่ที่ 30 เมกะวัตต์ อีกทั้งมั่นใจว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าชีวมวลแตะ 200 เมกะวัตต์ ในปี 2563 โดยปัจจุบันมีพีพีเอในมือแล้ว 80 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการยื่นขออีก 20 เมกะวัตต์ คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีพีพีเอในมือรวม 100 เมกะวัตต์.