- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 14 September 2015 23:09
- Hits: 10124
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อ หลัง Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบทั้งในปีนี้และปีหน้า
-ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลดลงกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลัง Goldman Sachs ออกมาประกาศปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบทั้งในปีนี้และปีหน้าลง โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในปี 59 ปรับลดลงจาก 57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เหลือเพียง 45 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงเช่นกันจาก 62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สู่ระดับ 49.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ Goldman Sachs ก็ได้ปรับลดคาดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบปี 58 ด้วยเช่นกัน โดยคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับลดลงจาก 52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เป็น 48.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงจาก 58.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เหลือ 53.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำมันล้นตลาด และเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
+ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เริ่มเห็นสัญญาณการลดลงของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐที่เริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดย Baker Hughes รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในสหรัฐลดลงอีก
16 หลุม เหลือ 848 แท่น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ลดลง 13 หลุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
+ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เผยคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีแนวโน้มปรับลดลงกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งมากกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนกว่า 300,000 บาร์เรลต่อวัน จากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกในปีหน้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคาดว่าในปีหน้าปริมาณการผลิต Tight Oil ในสหรัฐฯ จะลดลงกว่า 400,000 บาร์เรลต่อวันอีกด้วย นอกจากนี้ IEA ยังปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปีนี้ 110,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.71 ล้านบาร์เรลต่อวันด้วย ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี และคาดว่าในปีหน้าจะยังคงอยู่ที่ระดับเหนือกว่า 1.36 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+/- ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ทรงตัวในเดือน ส.ค. ที่ระดับ -0.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ -0.9% ซึ่งการที่ดัชนีราคาผู้ผลิตยังคงทรงตัวบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกของจีนปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10.8% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 10.5% อย่างไรก็ตาม ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือน ส.ค. ปรับลดลงมาอยู่ที่ 6.1% จากเดือนก่อนหน้า มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.0%
ราคาน้ำมันเบนซิน และราคาน้ำมันดิบดีเซล ตลาดสิงค์โปรปิดทำการเนื่องในวันเลือกตั้ง
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่กรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะมีกำหนดจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 16-17 ก.ย. นี้ ว่าจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ โดยผลสำรวจล่าสุดจาก Bloomber พบว่าโพลที่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้มีเพียง 48% ถือว่าลดลงจากการสำรวจเมื่อเดือนที่ 77% อย่างไรก็ดี นางเจเน็ต เยลเลน ประธาน Fed ย้ำว่ามีความเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เผยตัวเลขคาดการณ์กำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปี 59 ว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรลต่อวันสู่ระดับ 8.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดลงกว่า 1 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตสูงสุดในปี 58 ที่ 9.61 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (สิ้นสุดวันที่ 4 ก.ย.) ปรับลดลง 13 หลุม สู่ระดับ 662 หลุม ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกจากที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6 สัปดาห์
จับตาความไม่สงบในตะวันออกกลางหลังล่าสุดกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ได้บุกเข้ายึดครองบ่อน้ำมันจาซาล ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันแห่งสุดท้ายที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลซีเรียแล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ บ่อน้ำมันจาซาลเป็นบ่อน้ำมันขนาดกลาง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโบราณ พัลไมรา ซึ่งถูกกลุ่มไอซิสยึดครองอยู่ และอยู่ใกล้กับแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญของประเทศซีเรียอีกด้วย อย่างไรดี แม้ว่าซีเรียจะไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่แต่อาจทำให้ตลาดกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะบานปลายและส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆในตะวันออกกลางได้
ติดตามเศรษฐกิจจีนว่าจะดำเนินไปในทิศทางอย่างไรต่อไป หลังเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมาชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กดดันราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่บริโภคน้ำมันดิบเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยล่าสุดตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบของประเทศจีนปรับตัวลดลงแล้วกว่าร้อยละ 13.4 หรือประมาณ 6.26 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค. นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนก็ปิดร่วงต่อเนื่อง แม้ว่าทางการจีนจะพยายามออกมาตรการต่างๆ เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดไปแล้วก็ตาม
เปิดประตูสู่ AEC ท่องเที่ยวบนเส้นทางกาญจนบุรี-ทวาย
บ้านเมือง : สุเทพ พวงมะโหด...บันทึกภาพและข้อมูล
จากการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือที่มีชื่อย่อว่า "AEC" ซึ่งจะมีผลบังคับใช้จริงๆ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ทำให้บรรดาเหล่าสมาชิกอาเซียนที่มีทั้งหมด 10 ประเทศ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนใกล้ชิดติดกับประเทศไทย อาทิ พม่า, ลาว, กัมพูชา และเวียดนามต่างก็ได้ทำการปรับปรุงถนนหนทางเชื่อมโยงเข้าหากันเพื่อขยายธุรกิจการลงทุน, การขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ยกตัวอย่างเช่น เส้นทางสายกาญจนบุรีสู่เมืองทวายในประเทศพม่า
ผมและคุณพูนศักดิ์ อุดมเลิศลักษณ์ บอสใหญ่แห่งบริษัท อินโดไชน่า เอ็กซ์พลอเรอร์ (ประเทศไทย) ได้ร่วมเดินทางสำรวจเส้นทางในทริปนี้ โดยเริ่มต้นออกเดินทางจากจุดผ่านแดนบ้านพุน้ำร้อนตั้งอยู่ใน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ระยะทาง 50 กม. จากนั้นนำบัตรประชาชน (คนไทยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต) พร้อมเงินค่าธรรมเนียมคนละ 30 บาท ไปจัดทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวที่จุดผ่านแดนบ้านพุน้ำร้อน จากนั้นใช้บริการรถตู้ของพม่าค่าโดยสารคนละ 800 บาท เดินทางไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทิกิทางฝั่งพม่า ตั้งอยู่ห่างจากบ้านพุน้ำร้อนระยะทาง 4 กม. เพื่อตรวจสอบเอกสารและจ่ายค่าธรรมเนียมอีกคนละ 50 บาท สามารถเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในเมืองทวายได้ 7 วัน ซึ่งบัตรผ่านแดนชั่วคราวจะอยู่ได้แต่ในเมืองทวายเท่านั้นนะครับ
จากด่านพุน้ำร้อนสู่เมืองทวายระยะทางประมาณ 147 กม. เส้นทางสายนี้เป็นถนนลูกรังและกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยฝุ่นคล้ายเดินทางอยู่ท่ามกลางเมืองในหมอกและเส้นทางสายนี้อยู่ในความดูแลของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือกะเหรี่ยงเคเอ็นยู และกองกำลังย่อยเคเอ็นแอลเอ จึงทำให้รถของเราต้องหยุดเพื่อตรวจสอบเอกสารและจ่ายค่าผ่านทางเป็นระยะ
รถของเราออกเดินทางไปตามถนนลูกรังคู่ขนานไปกับแม่น้ำตะนาวศรีมองลงไปในแม่น้ำจะเห็นเรือนแพของชาวพม่าที่พากันมาร่อนแร่ทองคำในแม่น้ำตะนาวศรี รถตู้โดยสารพาเราผ่านแคมป์ที่พักของบริษัทอิตาเลียนไทยที่มาลงทุนก่อสร้างถนนสายนี้สู่ท่าเรือน้ำลึกทวาย รถตู้โดยสารใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก็พาเราเดินทางข้ามสะพานข้ามแม่น้ำทวายผ่านถนนลาดยาง ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นตาลขนาดใหญ่อายุหลายร้อยปียืนต้นเรียงรายไปตลอดสองข้างทางของถนนสายนี้ จนในที่สุดรถตู้โดยสารก็พาเราเดินทางมาถึงยังตัวเมืองทวาย หรือที่คนพม่าอ่านออกเสียงว่า "ทะเว (Dawei) "
สิ่งที่เราได้พบเห็นเป็นแห่งแรกก็คือ วงเวียนซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ นายพลอองซาน หรืออู อองซาน วีรบุรุษนักปฏิวัติและผู้นำในการเรียกร้องเอกราชของพม่าจนได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งประเทศพม่า หรือ "วีรบุรุษเพื่ออิสรภาพของประเทศพม่า" เป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าเป็นอย่างมาก
เดินทางมาถึงยังเมืองทวายเมื่อเวลาจวนเจียนจะค่ำเรามาหาที่พักกันก่อนดีกว่า สำหรับโรงแรมที่พักของเราคืนนี้ในเมืองทวายก็คือ Golden guest hotel เป็นโรงแรมสร้างใหม่ราคาตกคืนละ 40 USD
เช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นตั้งแต่ตี 4 จากนั้นออกเดินทางไปยังตลาดปลาโบราณที่หมู่บ้านติ่นโบซิกตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองทวายระยะทางประมาณ 20 กม. เพื่อเที่ยวชมวิถีชีวิตของชาวประมงพม่านำปลาที่หาได้จากทะเลมาขายให้กับพ่อค้าแม่ค้า บนชายหาดเมืองทวายมากมายไปด้วยปลาทะเลนานาชนิด ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนขนาดใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในทะเลพม่าบรรยากาศคล้ายกับตลาดปลามหาชัยในอดีตเมื่อ 50-60 ปีที่ผ่านมา
เที่ยวชมตลาดปลาจนสมควรแก่เวลา จากนั้นจึงเดินทางกลับมาหาอาหารเช้าทานกันที่ตลาดกันนาเซ่ในตัวเมืองทวายซึ่งกำลังคับคั่งไปด้วยผู้คนต่างเดินทางมาจับจ่ายซื้อของกัน มีทั้งอาหารสด, อาหารแห้ง, ผักผลไม้นานาชนิด สินค้าอีกอย่างที่เกือบทุกคนจะต้องซื้อกลับบ้านนั่นคือ "ดอกไม้" เพื่อนำไปบูชาพระ ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายชนิด
สำหรับ พ่อค้าแม่ขายในตลาดเมืองทวาย ก็มีอัธยาศัยน่ารักเป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใสกับนักท่องเที่ยว หลังจากเดินชมตลาดจนสมควรแก่เวลา จากนั้นมานั่งพักทานอาหารเช้าโรตีโอ่ง (Nan) กับน้ำชา สำหรับโรตีโอ่งเป็นอาหารเช้าที่นิยมของชาวทวาย มักจะทานโรตีโอ่งกับถั่วต้ม, มันบดปรุงรสกับเครื่องเทศและทานคู่กับกาแฟหรือชาร้อนและที่อยากจะแนะนำให้ลองชิมกันดูก็คือกะหรี่ปั๊บรสชาติของเขาอร่อยจริงๆ
จากนั้นในตอนสายเราออกเดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองทวาย อาทิ วัดพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทวาย โดยมีความยาว 74 เมตร สูง 21 เมตร อยู่ห่างจากเมืองทวายประมาณ 6 กม., วัดพระเจดีย์ชเวด่องจา เป็นวัดเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทวายเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพม่า นิยมพากันมาไหว้พระสวดมนต์ขอพรกันในยามเย็นเป็นประจำทุกวัน, เกาะลอยเซปั่นเป็นเกาะลอยเล็กๆ ตั้งอยู่ห่างจากฝั่งระยะทาง 150 เมตร คล้ายกับเกาะลอยที่ศรีราชาบ้านเรา มีสะพานคอนกรีตเชื่อมกับฝั่งและตัวเกาะ บนเกาะแห่งนี้มี พระเจดีย์เหม่วยิท เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาของพระพุทธเจ้า, วัดพระยืนมีความสูง 27 เมตร ตั้งอยู่ในตัวเมืองทวาย
หาดมอมะกันเป็นชายหาดที่สวยงามแห่งหนึ่งในเมืองทวายมีลักษณะคล้ายกับชายหาดหัวหินและชะอำบ้านเรา หาดทรายมีลักษณะโค้งยาวหลายสิบกิโลเมตร เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองทวาย มีร้านอาหารทะเลราคาถูกตั้งเรียงรายอยู่ริมหาดทรายหลายสิบร้าน
เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนแล้วโครงการประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยนก็จะบังเกิดขึ้น จึงอยากจะใคร่ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านเดินทางย้อนเวลาไปเยี่ยมเยือนเมืองทวายในสหภาพพม่า ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของเราบ้างนะครับ
ขอขอบคุณผู้ที่สนับสนุนการเดินทางในครั้งนี้ บริษัท อินโดไชน่า เอ็กซ์พลอเรอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทรศัพท์ 0-2898-1817, 0-2898-2324 http://www.indochinaexplorer.com
ธุรกิจไทยป่วน ทั้ง MERS-ทั้งธงแดง ICAO หุ้นดิ่งหลายตัว เกจิชี้ดับรายได้สุดท้ายของปท.