- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Monday, 14 September 2015 09:12
- Hits: 9725
PTT เสนอรมว.พลังงานนำเงินกองทุนน้ำมันฯอุดหนุนราคา NGV ลดผลกระทบบริษัท
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. (PTT) กล่าวว่า บริษัทได้เสนอพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ให้นำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มาอุดหนุนราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) เนื่องจากปัจจุบันแม้รัฐบาลจะปรับขึ้นราคา NGV มาที่ระดับ 13.50 บาท/กิโลกรัม (กก.) แต่ปตท.ก็ยังต้องแบกรับภาระราคา NGV ที่ยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงอยู่ราว 0.50-1.00 บาท/กก. เพราะราคาขายปลีก NGV ยังต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง และปตท.ยังต้องรับภาระราคา NGV ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะที่รัฐบาลยังตรึงอยู่ที่ 10 บาท/กก.ด้วย
"ในอนาคตปตท.จะเข้าสู่พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ซึ่งจะไม่สามารถอุดหนุนราคาพลังาน หรือขายสินค้าต่ำกว่าต้นทุนได้ ซึ่งทางรัฐมนนตรีพลังงาน ก็มีความเข้าใจเรื่องดังกล่าว ส่วนการตัดสินใจหรือนโยบายจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงพลังงาน โดยที่ผ่านมาปตท. ต้องแบกรับภาระขาดทุนจากการอุดหนุนราคา NGV มาแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท"นายเทวิทร์ กล่าวภายหลังจากการที่รมว.พลังงานได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมงานปตท.
นายเทวินทร์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ คนใหม่ของ PTT วันนี้เป็นวันแรก ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการขายกิจการปาล์มในอินโดนีเซียว่า ที่ผ่านมาปตท.ได้ขายพื้นที่ปาล์มไปแล้วจำนวน 3 แปลง และคงเหลืออีก 2 แปลง อยู่ระหว่างการดำเนินการขายกิจการ โดยปตท.จะทยอยขายกิจการปาล์มอินโดฯออกจนหมด และมีนโยบายที่จะไม่ลงทุนธุรกิจปาล์มอีก
ด้านพล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ปตท.เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีส่วนสำคัญด้านพลังงาน แต่ในยุคนี้ทุกบริษัทก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ปตท.นับว่าเป็นองค์กรชั้นนำอยู่แล้ว ขณะที่ในส่วนของการลงทุนธุรกิจปาล์มอินโดฯนั้นปตท.ได้ยกเลิกธุรกิจดังกล่าวไปแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
บางจาก ชี้ผู้ค้าเมินปรับลดสำรองน้ำมันอ้างกระทบธุรกิจ
ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * บางจากลั่นผู้ค้าน้ำมันไม่สามารถปรับลดปริมาณสำรองน้ำมันจาก 6% เหลือ 1% ได้ หวั่นกระทบต่อความมั่นคง ธุรกิจ ชี้ระดับสำรองที่เหมาะสมควรอยู่ 3-4% ของการจำหน่าย วอนกระ ทรวงพลังงานอย่าเปลี่ยนนโยบายบ่อย
นายพงษ์ชัย ชัยจิรวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บมจ.บาง จากปิโตรเลียม เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงพลังงานกำหนดให้ลด สำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์สำหรับ น้ำมันสำเร็จรูปลงจาก 6% ของปริ มาณการจำหน่ายให้เหลือ 1% ของปริมาณการจำหน่าย หรือสำรองน้ำมัน 43 วัน เหลือ 25 วัน ว่า ผู้ประ กอบการน้ำมันไม่สามารถลดปริมาณสำรองน้ำมันได้ตามที่ภาครัฐกำหนดให้เหลือเพียง 1% ได้ เนื่องจากจะ กระทบต่อความมั่นคงของการจำ หน่ายน้ำมันตามปั๊มของประเทศได้ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินกับอุปกรณ์การกลั่นหรือในกระบวนการจำหน่ายจะทำให้เกิดปัญหาจัดหาน้ำมันไม่ทันกับความต้องการใช้ได้
ทั้งนี้ เห็นว่าปริมาณสำรองที่ผู้ประกอบการลดได้แค่ 2-3% เท่า นั้น โดยไม่สามารถได้ถึง 5% เพื่อให้ปริมาณสำรองน้ำมันในการจำ หน่ายเหลืออยู่ในระดับที่เหมาะสม 3-4% ของปริมาณการจำหน่าย อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ประกอบการไม่สามารถลดปริมาณสำรองน้ำมันได้ตามเกณฑ์ของกรมธุรกิจพลังงานนั้น ไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ลดสำรองน้ำมันไม่ต่ำกว่า 1% เท่านั้น แต่จะสำรองเกินกว่า 1% เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
นายพงษ์ชัย กล่าวว่า ยอมรับว่าที่ผ่านมานโยบายกระทรวงพลังงานที่กำหนดให้ผู้ประกอบการสำรองน้ำมันเชิงยุทธศาสตร์เพิ่มขึ้น จากนั้นมากำหนดให้ลดลง ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ค้าน้ำมันเป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมาบางจากได้เตรียมแผนเช่าคลังเพื่อสำรองน้ำมันเอาไว้ แต่เมื่อรัฐเปลี่ยนนโยบายให้ลดสำรองน้ำมัน ทำให้บางจากเกิดความเสียหายเพราะได้ติดต่อขอเช่าคลังเอาไว้แล้ว ดังนั้นต้องการให้ภาครัฐอย่าเปลี่ยนนโยบายบ่อย เพราะทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตได้
สำหรับ การปรับลดปริมาณ สำรองน้ำมันสำเร็จรูปทางยุทธ ศาสตร์ประเทศลงนั้น กรมธุรกิจพลังงานได้ประกาศทยอยปรับลด โดยเริ่มจากวันที่ 1 ส.ค.2558 ลดจาก 6% เหลือ 5%, วันที่ 1 ก.ย.2558 ลดจาก 5% เหลือ 4%, วันที่ 1 ต.ค.2558 ลดจาก 4% เหลือ 2% และวันที่ 1 พ.ย.2558 ให้ลดจาก 2% เหลือ 1% เป็นต้นไป