WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OIL28ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว

  +วานนี้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงสนับสนุนของความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ รวมไปถึงการฟื้นตัวของตลาดหุ้นดาวโจนส์ ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ประกาศโดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

  + EIA ได้รายตัวเลขการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ ในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่ามียอดการใช้เพิ่มมากขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลทำให้ผู้บริโภคเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินอย่างต่อเนื่องในช่วงสุดท้ายของฤดูกาลขับขี่ในสหรัฐฯ ในปีนี้ ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงครึ่งหนึ่งของที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์เอาไว้เท่านั้น

  + ราคาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวก จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลง จากแรงกดดันของค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้น โดยวานนี้ค่าเงินหยวนได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นประมาณร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐฯ ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงได้ทำให้ราคาน้ำมันดิบมีค่าถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินในสกุลอื่นๆ

  +  ดัชนีดาวโจนส์ของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.47 ขึ้นไปสู่ระดับ 16,330.4 จุด วานนี้จากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Apple และ Biotechs ซึ่งแรงซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนราคาน้ำมันดิบในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าเพื่อรอดูช่วงเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบาย

  -  อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ ยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสำรองของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์

ที่ผ่านมา โดย EIA ได้รายตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสำรองไว้ที่ระดับ 458 ล้านบาร์เรลโดยเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรลซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 933,000 บาร์เรลเท่านั้น

       ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์จากประเทศจีนและอินโดนีเซียที่ได้ปรับตัวลดลง  นอกจากนี้ยังมีอุปทานส่วนเกินจากโรงกลั่นในประเทศจีนเข้ามาสู่ตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนามอยู่

  ราคาน้ำมันดีเซล  ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานน้ำมันดีเซลที่ยังคงล้นตลาด โดยเฉพาะจากทางประเทศในภูมิภาคเอเชียเหนือ รวมไปถึงโรงกลั่นในตะวันออกกลางที่ได้มีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ตามตลาดดีเซลยังได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศเวียดนามและบังกลาเทศอยู่

 

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวที่กรอบ 44-49 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 47-53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  จับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะมีกำหนดจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 16-17 ก.ย. นี้ ว่าจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ โดยผลสำรวจล่าสุดจาก Bloomber พบว่าโพลที่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้มีเพียง 48% ถือว่าลดลงจากการสำรวจเมื่อเดือนที่ 77% อย่างไรก็ดี นางเจเน็ต เยลเลน ประธาน Fed ย้ำว่ามีความเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

  รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ก.ย. ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ว่าจะมีการปรับเพิ่ม/ลด คาดการณ์ความต้องการใช้และอุปทานน้ำมันดิบอย่างไร รวมถึงมุมมองต่อทิศทางราคาน้ำมันในปีนี้และปีหน้า

   กลุ่มโอเปกแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำ และพร้อมที่จะเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกว่าจะปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อพยุงราคา ล่าสุดเวเนซุเอลาได้พยายามติดต่อประเทศสมาชิกอื่นๆ ในกลุ่มโอเปก เพื่อผลักดันการจัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นร่วมกับรัสเซีย และมุ่งหามาตรการเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างแรง อย่างไรก็ดี ยังไม่มีสัญญาณจากผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบียถึงการเจรจาเพิ่มเติมกับผู้ผลิตรายอื่น

  ติดตามทิศทางเศรษฐกิจจีนที่กำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัว โดยล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตจีน (PMI) ประจำเดือน ส.ค. 58 ที่ออกมาหดตัว ซึ่งถือว่าหดตัวมากที่สุดในรอบ 3 ปี ส่งผลให้นักลงทุนวิตกมากขึ้นว่าประเทศจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก อาจกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะชะลอตัวรุนแรง

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!