- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Sunday, 19 July 2015 13:29
- Hits: 1775
รมว.พลังงาน มั่นใจไร้ปัญหาไฟตก-ดับช่วงแหล่งก๊าซฯเจดีเอหยุด 21-25 ก.ค.
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงานลงพื้นที่โรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ตรวจความพร้อมรับมือสถานการณ์ก๊าซธรรมชาติในพื้นที่ภาคใต้ไม่พอใช้เป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นผลมาจากการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตก๊าซฯในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ) ช่วงวันที่ 21-25 ก.ค.58 พร้อมวางมาตรการรอบด้านทั้งการเตรียมพร้อมโรงไฟฟ้า มาตรการร่วมมือลดใช้ไฟฟ้ากับภาคธุรกิจอุตสาหกรรม โดยรับซื้อส่วนที่ประหยัดไฟได้ พร้อมรณรงค์สู่ภาคประชาชนรวมพลังชาวใต้ “ปิด-ปรับ-ปลด" ลดใช้พลังงานในช่วงเวลาดังกล่าว มั่นใจจะไม่เกิดปัญหาไฟตก-ดับในช่วงเวลาดังกล่าว
"ยืนยันได้ว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าว กระทรวงพลังงานได้เตรียมพร้อมทุกมาตรการเพื่อสร้างความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ สร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าตก ไฟฟ้าดับ ที่มาจากปัญหาเชื้อเพลิงไม่พอเพียงแน่นอน รวมทั้งได้เตรียมความพร้อมให้ไม่มีผลกระทบต่อการใช้ก๊าซ NGV อีกด้วย"นายณรงค์ชัย กล่าว
วันนี้ รมว.พลังงาน ลงพื้นที่โรงไฟฟ้าจะนะ เพื่อตรวจติดตามความพร้อมด้านการผลิตไฟฟ้าและเชื้อเพลิงในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากภาคใต้มีปัญหาเรื่องไฟฟ้าและเชื้อเพลิงที่ต้องบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันภาคใต้มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้า 3,115 เมกะวัตต์ โดยเป็นการผลิตจากเชื้อเพลิงที่ใหญ่สุดคือ โรงไฟฟ้าจะนะ 1,476 เมกะวัตต์ นอกนั้นมีโรงไฟฟ้ากระบี่ ขนอม และสุราษฎร์ธานี กำลังการผลิตประมาณ 1,300 เมกะวัตต์ และการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำคือ เขื่อนรัชชประภา 240 เมกะวัตต์ และอื่นๆอีกประมาณ 100 เมกะวัตต์ ที่สำคัญคือโรงไฟฟ้าจะนะที่มีกำลังการผลิตเกือบครึ่งของกำลังการผลิตไฟฟ้าภาคใต้ ใช้ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเจดีเอเชื้อเพลิง ประมาณวันละ 240 ล้านลูกบาศก์ฟุต
กระทรวงพลังงานจึงได้วางมาตรการรับมือทั้งด้านความพร้อมในการผลิตไฟฟ้า (Supply) จากทุกแหล่ง โดยโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 ที่ใช้น้ำมันดีเซลทดแทนได้ จะปรับให้เดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซลแทน ทำให้กู้การผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าจะนะคืนมาได้ 655 เมกะวัตต์ และให้โรงไฟฟ้าอื่นๆ ของภาคใต้ทั้งหมดเตรียมความพร้อมเดินเครื่องทุกหน่วย รวมทั้งงดการหยุดซ่อมบำรุงใดๆ และได้ประสานงานโรงไฟฟ้าดีเซลในค่ายทหารเดินเครื่องเสริม ส่วนระบบสายส่งได้ตรวจสอบระบบสายส่งที่เชื่อมโยงกับภาคกลางพร้อมใช้งาน 100% และสำหรับด้านความพร้อมของน้ำมัน ได้ประสานกับบมจ.ปตท. (PTT) โดยวางแผนเติมน้ำมันที่โรงไฟฟ้ากระบี่และโรงไฟฟ้าจะนะ รวมทั้งยังเตรียมทีมบุคลากรจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ไว้พร้อมที่จะแก้ไขสถานการณ์ให้ได้ทันท่วงที
นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้มีการรณรงค์ให้เกิดการประหยัดพลังงานด้านลดการใช้ไฟฟ้า (Demand) ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและโรงแรม ผ่านโครงการ Demand Response โดยเปิดรับซื้อผลประหยัดไฟฟ้าที่ประหยัดได้ที่ 3.40 บาท/หน่วย มีเป้าหมายลด Peak ไฟฟ้าประมาณ 100 เมกะวัตต์ ในช่วง 18.30 – 22.30 น. พร้อมกับรณรงค์ประชาชนชาวใต้ทุกภาคส่วนร่วมปฏิบัติการ 3 ป. “ปิด-ปรับ-ปลด" ลดใช้พลังงานในช่วงเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน
สถานการณ์การผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้มีความเสี่ยงในเรื่องเชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าสูง กระทรวงพลังงานจึงมีนโยบายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า ขยายสายส่งไฟฟ้าเพื่อให้สามารถรับไฟฟ้าเสริมจากภาคอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างท่าเรือขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) รองรับ LNG นำเข้าจากต่างประเทศสำหรับเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าภาคใต้ รวมทั้งมีนโยบายที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานในพื้นที่ภาคใต้ในอนาคต
ปลัดพลังงานเผยแหล่งก๊าซฯเจดีเอเลื่อนซ่อมบำรุงเป็น 21-25 จาก 19-23 ก.ค.
นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย(JDA-A18) จะเลื่อนเวลาการหยุดซ่อมบำรุงเป็นระหว่างวันที่ 21-25 ก.ค. จากเดิม 19-23 ก.ค.นี้ หลังมีคลื่นลมแรง ส่งผลกระทบให้เรือที่จะเข้ามาซ่อมบำรุงทำให้เริ่มงานช้ากว่ากำหนดเดิม 3 วัน ทำให้ต้องปรับแผนการผลิตของโรงไฟฟ้าจะนะ จ.สงขลา ออกไปจากเดิมเล็กน้อย ขณะที่แผนรองรับสำหรับการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯดังกล่าวยังเป็นไปตามเดิม
"ได้รับรายงานเมื่อวานนี้ว่าการซ่อมบำรุงแหล่งเจดีเอนั้น เรือที่จะเข้ามาซ่อมบำรุงมีปัญหาเข้ามาไม่ได้เพราะมีคลื่นลมแรง คาดว่าจะเข้ามาเริ่มงานได้ช้ากว่ากำหนด 3 วันคือเริ่มในวันที่ 21 จากเดิมวันที่ 19 แต่ทุกอย่างเตรียมพร้อมเหมือนเดิม โรงไฟฟ้าจะนะก็เตรียมเชื้อเพลิงดีเซลสำรองไว้แล้ว เราก็ยังคงรณรงค์ให้ประชาชนภาคใต้ช่วยกันประหยัดไฟฟ้า ส่วนโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 2 ก็ปรับแผนจากที่จะต้องหยุดจ่ายไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 19 ก็ล่าช้าออกไป 3 วัน"นายคุรุจิต กล่าว
อนึ่ง การหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ JDA-A18 จะทำให้ปริมาณก๊าซฯหายไปราว 420 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และจะกระทบต่อโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 ขนาด 800 เมกะวัตต์ต้องหยุดเดินเครื่องผลิตตามไปด้วย แต่ในส่วนของโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 ซึ่งใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงเช่นเดียวกันนั้น ได้ปรับปรุงโรงไฟฟ้าให้สามารถเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลแทนก๊าซฯได้
นายคุรุจิต กล่าวอีกว่า ภาคใต้นับว่ามีอัตราการเติบโตของการใช้ไฟฟ้าสูงกว่าภาคอื่นๆ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าของภาคใต้ยังไม่มากนัก ทำให้มีความจำเป็นต้องนำไฟฟ้าจากภาคอื่นผ่านสายส่งไปยังภาคใต้ ซึ่งในอนาคตรัฐบาลก็มีแผนที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆเพิ่มเติม โดยเฉพาะในโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ ที่ใช้ถ่านหินสะอาดเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะเป็นการกระจายการใช้เชื้อเพลิงจากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่การใช้เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจะมาจากก๊าซฯเป็นหลักด้วย ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวปี 58-79 (PDP2015)
โดยความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่ ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง และได้ปรับแผนให้รองรับกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อยอยู่ระหว่างการรออนุมัติจากทางการ ซึ่งรัฐบาลยังคงเดินหน้าเปิดประมูลการสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ต่อไปตามกำหนดเดิมในวันที่ 22 ก.ค.นี้ แต่การประกาศจะดำเนินการต่อไปนั้นยังต้องรอการอนุมัติ EHIA ให้เรียบร้อยก่อน
อินโฟเควสท์