- Details
- Category: พลังงาน
- Published: Friday, 10 July 2015 21:42
- Hits: 14461
ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวหลังตลาดหุ้นในจีนดีดตัวขึ้นขณะที่การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านยังไม่ได้ข้อสรุป
+ ราคาน้ำมันดิบทั้งเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากลงไปแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยสาเหตุหลักนั้นมาจากการกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศจีนหลังจากปรับตัวลงไปกว่าร้อยละ 30 จากช่วงกลางเดือนมิถุนายน เนื่องจากการเข้าแทรกแซงของทางภาครัฐ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงสนับสนุนมาจากความไม่แน่นอนของการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจที่ยังคงยืดเยื้อ
+ นักลงทุนส่วนใหญ่ได้มีความเห็นว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีนมากกว่าวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในกรีซ อย่างไรก็ตาม หลังจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการสนับสนุนรอบใหม่ในการเสริมสภาพคล่องให้กับสถาบันสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ของจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการสินเชื่อแก่นักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้น นอกจากนี้ยังได้สั่งห้ามไม่ให้นักลงทุนที่ถือหุ้นเกิน 5% ทำการขายหุ้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อจะสร้างเสถียรภาพของตลาดหุ้น โดยดัชนีเซียงไฮ้คอมโพสิตของจีนวานนี้นั้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 204.14 จุด หรือ 5.76% มาปิดที่ 3,709.33 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบวันที่สูงที่สุดในรอบ 6 ปี
+ การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ยังมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อไป โดยนายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่า จะไม่รีบร้อนในการทำข้อตกลงกับอิหร่าน โดยเส้นตายของการเจรจาครั้งนี้อยู่ที่ก่อน 6 โมงเช้าวันศุกร์ของกรุงเวียนนา หากการเจรจายังไม่ลุล่วง จะทำให้สภาคองเกรสมีเวลาพิจารณาข้อตกลงได้นานขึ้นเป็น 60 วันจากเดิมที่มีเวลาเพียง 30 วันเท่านั้น ทั้งนี้อิหร่านที่ถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกอยู่ได้ส่งออกน้ำมันดิบเพียง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2557 จากที่เคยส่งออกน้ำมันดิบถึง 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2555
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์น้ำมันเบนซินเพิ่มเติมจากประเทศเวียดนาม รวมไปถึงโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไต้หวันและเกาหลีใต้ปิดซ่อมบำรุงตามฤดูกาล ทำให้ตลาดน้ำมันเบนซินในภูมิภาคอยู่ในภาวะตึงตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดได้คลายความกังวลในตลาดสหรัฐฯ หลังจาก สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.22 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 217.95 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าน้ำมันราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่ยังคงอยู่ในระดับสูงหลังโรงกลั่นในภูมิภาคกลับมาดำเนินการหลังจากปิดซ่อมบำรุง รวมไปถึงมีการส่งออกน้ำมันดีเซลมากขึ้นจากประเทศจีนและประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดีเซลยังได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการเพิ่มเติมจากแอฟริกาตะวันตกอยู่
ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เร
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
การแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้กรีซ หลังจากรัฐบาลกรีซผิดนัดชำระหนี้งวดล่าสุดให้แก่ IMF ราว 1.6 พันล้านยูโร ในวันที่ 30 มิ.ย. ส่งผลให้กรีซกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วประเทศแรกที่ผิดนัดการชำระหนี้ โดยล่าสุด กลุ่มเจ้าหนี้เลื่อนเส้นตายการเจรจาออกไปเป็นวันอาทิตย์ที่ 12 ก.ค. นี้แทนการประกาศไม่ต่ออายุข้อตกลงช่วยเหลือกรีซออกไปจากวันที่ 30 มิ.ย.
ราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวเหนือระดับ 60 เหรียญสหรัฐฯ อาจเพิ่มความจูงใจให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ กลับมาเพิ่มอัตราการผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ บริษัทขุดเจาะและผลิตน้ำมันดิบหลายแห่งได้ชะลอการขุดเจาะและผลิตน้ำมันดิบลงจากภาวะราคาน้ำมันดิบตกต่ำ
อิหร่านและชาติมหาอำนาจตกลงที่จะยืดเวลาการเจรจาเพื่อหาข้อยุติโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อแลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรให้ได้ข้อสรุปภายในวันที่ 10 ก.ค. โดยตลาดคาดการณ์ว่าหากชาติตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน จะส่งผลให้อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบได้มากขึ้นอีกราว 2- 5 แสนบาร์เรล ต่อวัน ภายใน 6-12 เดือน หลังจากการยกเลิกมาตรการคว่ำมาตร
ทิศทางเศรษฐกิจจีนที่กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) จะมีการประกาศใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ โดยล่าสุด PBOC ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี และประกาศลดสัดส่วนเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติม